พฤกษาฯต่อยอดพรีคาสต์
บิ๊กเพลเยอร์อีกราย "ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์" แห่งพฤกษา เรียลเอสเตท ทุนประเดิมที่เริ่มต้นก่อนใครคือโรงงานระบบก่อสร้างสำเร็จรูป หรือพรีคาสต์ที่ลำลูกกา ถึงแม้จะสะดุดไปบ้างในช่วงน้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปีที่แล้ว แต่อาการ "ล้มดัง-ฟื้นเร็ว" ก็ยังเป็นคำนิยามที่บ่งบอกชัดเจนเกี่ยวกับองค์กรนี้เจาะเฉพาะการใช้คาพาซิตี้ระบบสำเร็จรูปในมือ "เสี่ยทองมา" ระบุว่า ปีนี้โรงงานใช้กำลังการผลิตเฉลี่ย 60% ปีหน้าจะกลับมาบุกได้เต็มสูบอีกครั้ง ด้วยเป้าหมายขยับกำลังการผลิตเป็น 80-90%
แน่นอนว่า กลับมาคราวนี้ย่อมมาด้วยมาดใหม่ไฉไลกว่าเดิม ดังนั้นนอกจากเรื่องการปรับแบรนด์ที่มีบ้านนับ 100 โครงการ จุดเน้นจะมีเรื่อง "คุณภาพโปรดักต์" กับ "การบริการ"ลงลึกรายละเอียดเรื่องคุณภาพบ้านที่จะส่งมอบลูกค้า ระบบพรีคาสต์ถูกนำมาเอกซเรย์ใหม่ทุกขุมขน ภายใต้กระบวนการที่เรียกว่า "REM-realestate manufactur ing" จากเดิมระบบสำเร็จรูปหล่อจากโรงงานนำมาประกอบติดตั้งที่ไซต์ก่อสร้างดูจะยังไม่สะใจพอ ต้นทุนยังกดลงได้อีก
"REM จะมีรูปแบบเดียวกับไลน์ผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม เพียงแต่ย้ายไลน์ผลิตดังกล่าวมาไว้ที่ไซต์ก่อสร้าง เช่น ทีมติดตั้งเสา คาน ประตูหน้าต่าง ปูกระเบื้อง ทาสี ทุกทีมจะมีทักษะเฉพาะด้าน เมื่ออยู่หน้าไซต์งานไม่ต้องรอให้มีซูเปอร์ไวเซอร์มาสั่งแล้วค่อยทำ ไม่ต้องรอใคร ถ้ามีงานวางอยู่ตรงหน้าก็ทำไปตามความรับผิดชอบได้เลย"
ก่อนหน้านี้พฤกษาฯนำระบบ REM ทดลองใช้แล้ว 3 ปี ปัจจุบันมีประมาณ 40% เป้าหมายในใจดัง ๆ "เสี่ยทองมา" ตั้งไว้จะต้องเพิ่มจนถึงขนาดใช้ 100% ในอนาคตอันใกล้นี้ เหตุผลเพราะ ผลงานของระบบ REM ร่นเวลาสร้างเสร็จเร็วขึ้น 50% จากที่เคยสร้าง 2 เดือนเหลือเดือนเดียว ที่สำคัญลดความสูญเสียระหว่างทางถึง 30% เพราะทีมงานแต่ละทีมรับผิดชอบเฉพาะส่วน ยิ่งทำซ้ำบ่อย ๆ ฝีมือก็ยิ่งเข้มข้น ทำให้ลดการสูญเสียหน้างานโดยอัตโนมัติ "ประเด็นลดการสูญเสียหรือ loss ผมมั่นใจว่ายังสามารถลดลงได้อีก"
สงสัยนิดเดียวเท่านั้นเองว่า ระบบ REM ลูกค้าได้อะไร ผู้บริโภคได้อะไร
"หลัก ๆ เลยคือ ทำให้เราส่งมอบบ้านได้ในเวลาสั้นลง ลูกค้าจอง โอนไม่เกิน 3 เดือน อาจจะ 2 เดือนโอน ในแง่คุณภาพบ้านก็ดีขึ้นภายใต้ระบบนี้ เพราะเป็นกระบวนการที่เรียกว่า พีไอ (PI-process
improvement) ระหว่างสร้าง วัสดุตัวไหนมีปัญหาโดยกระบวนการเราก็ต้องเปลี่ยนด้วย ผมทำละเอียดเก็บข้อมูลเลยว่าวัสดุตัวไหนบกพร่อง 13% จะเปลี่ยนยี่ห้อเปลี่ยนซัพพลายเออร์ทันที"
ทั้งหมดนี้จะมีผลต่อการปรับราคาบ้านในปีหน้าหรือไม่
"บ้านตามหลักปรับขึ้นราคาทุกปีเพราะต้นทุนเพิ่มปีละ 3-5% ส่วนหนึ่งเพราะอัตราเงินเฟ้อ ปีนี้มีเรื่องค่าแรง 300 บาท แต่รัฐบาลก็ชดเชยให้ด้วยการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 30% เหลือ 23% อย่างไรก็ถึงจะชดเชยกัน แต่ภาวะเงินเฟ้อก็ยังมีผลให้ต้องปรับขึ้นราคาบ้านเฉลี่ยปีละ 2-5% อยู่ดี
กับคำถามสุดท้ายที่ว่า นโยบายปรับราคาบ้านของพฤกษาฯ
"พฤกษาฯจะปรับราคาบ้านขึ้นน้อยกว่ารายอื่น เพราะนำระบบ REM มาใช้ ปีนี้เฉลี่ยทั้งปีมีประมาณ 2% ใกล้เคียงเงินเฟ้อ ทุกวันนี้เราทำทาวน์เฮาส์ขายราคา 9 แสน-1 ล้านบาท ขณะที่คู่แข่งต้องขายราคา 1.3-1.5 ล้านบาท"
และในฐานะบิ๊กเพลเยอร์จะส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ "…เรื่องปรับราคาบ้าน ไม่จำเป็นพฤกษาฯจะไม่ปรับ หรือปรับน้อยกว่า ช้ากว่าคู่แข่ง สำหรับคนซื้อบ้านถ้าพร้อมก็ซื้อได้เลย รอไปก็ไม่มีทางถูกลง" คำกล่าวแบบส่งสัญญาณทิศทางตลาดของ "เสี่ยทองมา"
ที่มาประชาชาติธุรกิจ
#############################################
เสี่ยทองมา ยังบอกว่า ต้นทุนกดได้อีกนะคร้าบ ผม
By: Zhounat
Since: 13 ต.ค. 55 09:50:33