อยากทราบราคาทำผนังเบายิบซั่มหนา 12 มม. โครงเคร่าเหล็กชุบสังกะสี ด้านเดียว ค่าแรงและค่าวัสดุ ตารางเมตรละเท่าไหร่ และถ้าจะตกแต่งผนังคือไม่ทาสี จะตกแต่งแบบไหนได้บ้าง เช่น ผนังคล้ายฉีดโฟมแล้วเซาะร่องเรียกไม่ถูกดูสวยดีไม่รู้ตารางเมตรละเท่าไหร่ หรือติดวอลล์เปเปอร์ อื่นๆ มีอะไรบ้าง

คือ จะซ่อมแซมตึกแถวเก่าครับ แล้วผนังภายใน นี่จำเป็นมั๊ยครับ ว่า ต้องขูดออกให้หมดจด ก่อนทำสีใหม่

แล้วถ้าต้องขูดออกจริง ๆ นี่ เค้าคิดค่าแรง กันตรม. ละ ประมาณเท่าไหร่ครับ

น่าจะแพงกว่า ทาใหม่ รึป่าว

หรือ มีน้ำยาเคลือบ อะไรแนะนำมั๊ยครับ

เป็นผนังปูนครับ ดูจากสภาพ สียังเกาะแน่นมาก ๆ

เห็นกรอบสำเร็จรูปมีวางขายที่ Index ถามพนักงานแล้วมีแค่ขนาดและสีตามที่โชว์ ขนาดมันเล็กไปครับ

ไม่ทราบผมจะไปซื้อกระจกแล้วเอาไปให้ร้านไม้ใส่กรอบ
หรือไปร้านไม้ตีกรอบแล้วนำไปให้ร้านขายกระจก
มันยังไง ดีครับ พอดีไม่ได้ปรึกษาช่างอ่ะครับ
ค่าของและค่าแรงก็แพง ไม่ต่อราคาช่างซักกะบาท ..กรรมจริงต่อไม่เป็น
ดันอาสาหาวัสดุตกแต่งต่าง ๆ เองกะว่านำไปให้ช่างติดตั้งครับ
ไอเดียบรรเจิดแต่ไม่มีเวลาและความรู้แหล่งซื้อหา …. เฮ้อ

ตามนั้นครับ ขอบคุณครับ

By: ข้าวต้มหมูใส่กุ้งแห้ง
Since: 26 ต.ค. 55 14:01:21

คือหมอดูฮวงจุ้ยทักว่าควรจะทำน้ำพุเจ็ดหัวแบบเป็นวงกลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางสี่เมตรคือเดิมทีเป็นวงเวียนแล้วปลูกต้นปาล์มก่อนเข้าลานจอดรถอะครับ คือหกหัวฉีดสูงขึ้นไปแล้วแล้วมีหนึ่งหัวตรงกลางฉีดสูงสุด เขามาตีราคาบอก4แสน คือผมว่าราคาค่อนข้างสูงอะครับ ค่าวางระบบแสนนึง ค่าขุดค่าแรงค่าของสามแสน. ผมกำลังคิดว่าถ้าไปซื้อแบบหัวๆมาเลยแล้วให้เขามาเดินสายเดินระบบให้จะถูกกว่าไหมครับเพราะเรื่องขุดฉาบปูนหรือทำขอบมีคนงานทำอยู่แล้วพอดีที่บ้านเป็นโรงงานอะครับ รบกวนเพือ่นๆแนะนำหน่อยครับ ไม่มีประสบการณ์ทำน้ำพุเลย

By: Tango07
Since: 26 ต.ค. 55 09:26:49

สอบถาม ผรม.แถวบ้าน

เป็นพื้นโรงจอดรถครับ พท.33 ตร.ม.

ส่วน ลค.ซื้อยาแนว+กระเบื้อง เอง

By: ล๊อกอินนี้สีเขียว
Since: 22 ต.ค. 55 11:31:48

คือผมรับงานต่อเนื่องจากผู้รับเหมาคนเดิมซึ่งทิ้งงานไป  เมื่อผมเข้าไปทำงานบ้านได้ก่อสร้างถึงเสาชั้น 1 เทเรียบร้อยแล้ว ผมดำเนินการต่อตั้งแต่คานชั้นสอง เสา ไปจนงานก่อฉาบตกแต่ง ทาสี เดินน้ำ ไฟ ฯ  จนสามารถเข้าอยู่ได้ครับ   ส่งงานไปเมื่อเดือน  เม.ย. 55  ที่ผ่านมา

ปัญหาคือ เมื่อวานเจ้าของบ้านโทรมาหา  พูดไปร้องให้ไปเรื่องบ้าน กลับ้านจะพัง กลัวไม่มีที่จะอยู่  เริ่มต้นมาจากทางเจ้าของบ้านจะเทคอนกรีตทางขึ้นโรงจอดรถ  เลยไปว่าจ้างช่างแถวบ้านมาทำ และสั่งของจากร้านวัสดุก่อสร้างใกล้บ้านเจ้าประจำ   ช่างที่จ้างมาก็เคยเป็นลูกน้องของช่างชุดแรกที่ทิ้งงานไป   ทีนี้ทำไปคุยกันไป  ช่างที่มาทำก็ลากใส้มาเผาผู้รับเหมาคนแรกว่า โกงค่าวัสดุจากเจ้าของบ้านอย่างไร เจ้าของบ้านก็ฟังแล้วก็ไปถามร้านวัสดุก่อสร้าง สรุปว่าเป็นจริง เจ้าของบ้านวิ่งไปหาผู้รับเหมาคนแรกจะให้รับผิดชอบ ผู้รับเหมาบอกไม่มีสัญญา  เขาสร้างบ้านมาเป็นสิบหลัง ไม่เคยมีที่ไหนพัง  สรุปว่าคงเรียกร้องเอากับใครไม่ได้  เท่าที่ผมฟังมาและตรวจสอบได้คือคอนกรีตฐานราก เสาตอม่อ และคานชั้น 1   ผู้รับเหมาสั่งปูนผสมเสร็จจากร้านวัสดุก่อสร้างในปริมาณน้อยกว่าการใช้จริง แล้วมาผสมหิน  ทราย  น้ำ เพิ่มที่หน้างาน
– คอนกรีตฐานราก  4  คิว  สั่งคอนกรีต   2.5  คิวรถใหญ่  ผสมหิน ทราย น้ำเพิ่มหน้างานให้ได้ปริมาตรพอสำหรับเท 4 คิว
– คอนกรีตเสาตอม่อ  กรณีเดียวกัน
– คอนกรีตคาน  3.3  คิว   สั่งคอนกรีต  2  คิวรถใหญ่  ผสมหิน ทราย น้ำเพิ่มหน้างาน
–       เสาชั้น  1   กรณีเดียวกัน

@  เหล็กเสริมเสา    16 DB   4 เส้น
@ เหล็กเสริมคาน   16  DB   6  เส้น  ( คอม้า 2 )

ณ  ปัจจุบันนี้  บ้านยังไม่มีอาการทรุด เอียง แตก ร้าวแต่อย่างใด  ถ้าผมจำไม่ผิด สมัยเรียนชั้นสูงสุดของผมคือระดับ ปวส. อาจารย์เคยบอกว่า การออกแบบจะเผื่อกำลังไว้ประมาณ 2.5 เท่า  แต่กับกรณีนี้  ผมคิดเอาเองว่าคงไม่เหลือกำลังให้เผื่อแล้ว  ถึงบ้านจะไม่วิบัติในวันนี้  ก็มีโอกาสเสียหาย

ใจผมอยากจะบอกไปตรงๆ ว่าบ้านนี้ไม่ปลอดภัย  แต่ผมคลุกคลีทำบ้านนี้มาหลายเดือนทำให้พูดไม่ออก  เจ้าของบ้านเป็นคนซื่อ ใจดี นิสัยดี  มีน้ำใจกับผมมาตลอด ผมเลยบอกไปให้ใจเย็นๆ  บ้านปูนสองชั้นแบบนี้มันมีเหกล็กเสริม  ถ้ามันจะพังมันไม่พังลงมาในทันที  มันจะร้าว จะเอียง จะทรุดให้แก้ไขก่อน เพื่อที่เจ้าของบ้านจะได้สบายใจในช่วงนี้

สิ่งที่ผมตั้งใจจะทำให้ได้ คือทำบ้านนี้ให้อยู่ได้โดยปลอดภัย

เบื้องต้น  ผมเสนอรายการปรับปรุงเจ้าของบ้านไปดังนี้  ไม่ใช่อยากได้งาน หรืออยากได้เงินนะครับ  ตั้งใจจะส่งลูกน้องไปแล้วให้จ่ายรายวันตามจริง   วัสดุที่ผมมีอยู่บ้าง อย่างเหล็กเส้น ถ้ายังไม่พร้อมจะให้ยืมก่อน แล้วจะซื้อมาใช้ หรือตีราคาคืนผมทีหลังก็ได้  สงสารเจ้าของบ้าน กู้เงินมาสร้างบ้านส่งยี่สิบปี นี่เพิ่งส่งได้หกงวด  จ่ายค่าแรงผมก้อนสุดท้ายในงานที่เพิ่มขึ้นมา (งานตกแต่ง) ยังจ่ายเป็นแหวนทอง กับกล้องถ่ายรูป คือหมดเงินจริงๆ  
แต่เนื่องจากงานซ่อมเป็นอะไรที่ไม่ถนัดเลย  แถมเรียนไม่ถึงขั้นนั้น จะมั่วทำไปเกิดผิดพลาดก็จะเป็นการซ้ำเติมเจ้าของบ้านอีก เลยอยากขอคำแนะนำหน่อยครับ

1.  จากข้อมูล  ผมคิดว่าจะปรับปรุงเพิ่มกำลังฐานรากก่อน  เพื่อป้องกันปัญหาทรุด เอียง  เนื่องจากตอม่อแตก ร้าว  
    เสาตอม่อรับน้ำหนักไม่ไหว ฯ เพื่อรักษาองค์อาคารไว้  ความคิดนี้ถูกหรือไม่ครับ
2.  ขนาดตอม่อเดิมคือ  หลุมตอม่อลึก  1.10  ม.  ขนาดของคอนกรีตตอม่อ   1.20 x 1.20 x 0.30  ม.     เสาตอม่อ
    เป็นเสากลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง  0.20  ม.  ความสูงของเสาตอม่อ  0.80  ม.
3.  ตามความคิดที่จะทำการปรับปรุงตามขั้นตอนต่อไปนี้   ถูกต้องหรือไม่อย่างไรครับ
     –   ในเสารอบๆ จะขุดถึงระดับพื้นตอม่อเดิม  แล้วขยายออกด้านละ  0.20  ม.  ทุกด้าน  ส่วนเสากลางบ้าน  จะ
          ขยายออก  0.40  ม.
     –   จากนั้นผูกเหล็กทำตะแกรงตอม่อขึ้นมาใหม่  
     –   แล้วเทความหนา  0.30  ม.  ซึ่งก็จะได้ตอม่อใหม่ขนาด  1.60 x 1.60 x 0.30  ทับตอม่อเดิม ( หรือขนาดรวม
         ตอม่อเดิม  1.60 x 1.60 x 0.60 ม. ) ในเสารอบบ้าน  และได้ตอม่อใหม่ขนาด  2.00 x 2.00 x 0.30  ทับ
         ( หรือขนาดรวมตอม่อเดิม  2.00  x 2.00  x 0.60 ม. )  ในเสากลาง
     – ทำแบบหล่อเสา  0.60 x 0.60  หุ้มทับเสาเดิม  ซึ่งเสาใหม่จะเทต่ำกว่าท้องคาน 2 5 ซม. และจำเทอุด
      ช่องว่างส่วนนี้ด้วย Non-shink
4.  หรือมีแนวทางอื่นที่สามารถปรับปรุงแก้ไขปัญหาจากการก่อสร้างในเคสนี้ไหมครับ  ขอคำแนะนำด้วยครับ

By: elenor
Since: 18 ต.ค. 55 09:59:57

รบกวนดูราคาที่ช่างเสนอมาให้หน่อยค่ะ
1. ฝ้าฉาบเรียบ 60 ตรม. ค่าของ+ค่าแรง 22000 บาท ตรม.ละ 366 บาท
2. ปูกระเบื้องแกรนิตโต้ 60*60 ซม. ค่าของ+ค่าแรงคิดตรม.ละ 1100 บาท
ในส่วนของแกรนิตโต้นี่ยังไม่ทราบว่าจะใช้วัสดุราคาเท่าไหร่ ถ้าเกิดเราซื้อกระเบื้องมาเองแล้วให้ช่างปู ค่าแรงควรอยู่ตรม.ละเท่าไหร่คะ

By: Aum Dolaporn
Since: 17 ต.ค. 55 22:19:28

บ้านยังใหม่มากแต่ปล่อยเช่าไปราคาถูกเพราะไม่มีเวลาดูแลและไม่ได้คิดถี่ถ้วน ผู้เช่าแรกก็ท่าทางดีแต่พอย้ายเข้ามาก็เห็นขนของมาเยอะจนล้นบ้านไปหมด เฟอร์นิเจอร์ใหญ่ๆหนักๆก็เอามาลากครูดพื้น และบางทีเข้าไปก็เห็นย้ายตำแหน่งเฟอร์หนักๆหลายชิ้น

พื้นบ้านเดิมเป็นแกรนิโต้สีขาวนวลเคลือบอย่างดี แต่คงเพราะการลากครูดพื้นทำให้ เหมือนเคลือบหลุดเป็นหย่อมๆทำให้บางส่วนกระดำกระด่างไปเพราะไม่มีสารเคลือบ พอมีคราบสกปรกก็ฝังแน่น กลุ้มใจมากค่ะ อยากจะขายบ้านแต่สภาพแย่ลงเยอะราคาคงตกมาก

ลองเรียกช่างมาตีราคาเปลี่ยนแผ่นที่ชำรุดก็คิดแพงมากเพราะถ้าต้องเลาะบางแผ่นมันลำบาก และอาจไม่ได้กระเบื้องล๊อตเดิมสีก็เพี้ยนๆและอาจไม่ได้ระดับคืออาจบานปลาย

ไม่งั้นก็ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดซึ่งค่ากระเบื้องค่าปูนก็ประมาณ4หมื่นคร่าวๆและค่าแรงอีกหมื่นกว่า กลุ้มมากเพราะค่าเช่าก็ถูกเหมือนเข้าเนื้อ และคนเช่าก็พอไม่ได้ดั่งใจก็ก้าวร้าวใส่ เราหนักใจเพราะมีค่าประกันแค่ไม่กี่หมื่นซึ่งไม่พอแล้วยังไม่รวมค่าเสียหายอื่นๆที่ยังดูไม่หมดอีก

และเดือนสุดท้ายนี่ทำท่าจะไม่จ่ายคงกะให้หักจากค่าประกัน ซึ่งมันก็จะเหลือน้อยมาก และเขาต้องการเรียกค่าประกันคืนทั้งหมดหาว่าลงทุนตกแต่งสวนไปเยอะและยืนยันว่าไม่มีอะไรเสียหาย และพื้นก็ยังดูออกไม่มากแต่เชื่อว่าอีกไม่นานมันจะหมองและดำมากกว่านี้เพราะคราบจะฝังไปเรือยๆ

เรายังไม่ได้คุยกะเขาเรื่องพื้นกะลังกลุ้มใจเพราะดูจากท่าทีเขาแล้วต้องโวยวายแน่นอน ควรทำไงดี

By: เซ็ง
Since: 15 ต.ค. 55 13:10:22

พฤกษาฯต่อยอดพรีคาสต์

บิ๊กเพลเยอร์อีกราย "ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์" แห่งพฤกษา เรียลเอสเตท ทุนประเดิมที่เริ่มต้นก่อนใครคือโรงงานระบบก่อสร้างสำเร็จรูป หรือพรีคาสต์ที่ลำลูกกา ถึงแม้จะสะดุดไปบ้างในช่วงน้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปีที่แล้ว แต่อาการ "ล้มดัง-ฟื้นเร็ว" ก็ยังเป็นคำนิยามที่บ่งบอกชัดเจนเกี่ยวกับองค์กรนี้เจาะเฉพาะการใช้คาพาซิตี้ระบบสำเร็จรูปในมือ "เสี่ยทองมา" ระบุว่า ปีนี้โรงงานใช้กำลังการผลิตเฉลี่ย 60% ปีหน้าจะกลับมาบุกได้เต็มสูบอีกครั้ง ด้วยเป้าหมายขยับกำลังการผลิตเป็น 80-90%

แน่นอนว่า กลับมาคราวนี้ย่อมมาด้วยมาดใหม่ไฉไลกว่าเดิม ดังนั้นนอกจากเรื่องการปรับแบรนด์ที่มีบ้านนับ 100 โครงการ จุดเน้นจะมีเรื่อง "คุณภาพโปรดักต์" กับ "การบริการ"ลงลึกรายละเอียดเรื่องคุณภาพบ้านที่จะส่งมอบลูกค้า ระบบพรีคาสต์ถูกนำมาเอกซเรย์ใหม่ทุกขุมขน ภายใต้กระบวนการที่เรียกว่า "REM-realestate manufactur ing" จากเดิมระบบสำเร็จรูปหล่อจากโรงงานนำมาประกอบติดตั้งที่ไซต์ก่อสร้างดูจะยังไม่สะใจพอ ต้นทุนยังกดลงได้อีก

"REM จะมีรูปแบบเดียวกับไลน์ผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม เพียงแต่ย้ายไลน์ผลิตดังกล่าวมาไว้ที่ไซต์ก่อสร้าง เช่น ทีมติดตั้งเสา คาน ประตูหน้าต่าง ปูกระเบื้อง ทาสี ทุกทีมจะมีทักษะเฉพาะด้าน เมื่ออยู่หน้าไซต์งานไม่ต้องรอให้มีซูเปอร์ไวเซอร์มาสั่งแล้วค่อยทำ ไม่ต้องรอใคร ถ้ามีงานวางอยู่ตรงหน้าก็ทำไปตามความรับผิดชอบได้เลย"

ก่อนหน้านี้พฤกษาฯนำระบบ REM ทดลองใช้แล้ว 3 ปี ปัจจุบันมีประมาณ 40% เป้าหมายในใจดัง ๆ "เสี่ยทองมา" ตั้งไว้จะต้องเพิ่มจนถึงขนาดใช้ 100% ในอนาคตอันใกล้นี้ เหตุผลเพราะ ผลงานของระบบ REM ร่นเวลาสร้างเสร็จเร็วขึ้น 50% จากที่เคยสร้าง 2 เดือนเหลือเดือนเดียว ที่สำคัญลดความสูญเสียระหว่างทางถึง 30% เพราะทีมงานแต่ละทีมรับผิดชอบเฉพาะส่วน ยิ่งทำซ้ำบ่อย ๆ ฝีมือก็ยิ่งเข้มข้น ทำให้ลดการสูญเสียหน้างานโดยอัตโนมัติ "ประเด็นลดการสูญเสียหรือ loss ผมมั่นใจว่ายังสามารถลดลงได้อีก"

สงสัยนิดเดียวเท่านั้นเองว่า ระบบ REM ลูกค้าได้อะไร ผู้บริโภคได้อะไร

"หลัก ๆ เลยคือ ทำให้เราส่งมอบบ้านได้ในเวลาสั้นลง ลูกค้าจอง โอนไม่เกิน 3 เดือน อาจจะ 2 เดือนโอน ในแง่คุณภาพบ้านก็ดีขึ้นภายใต้ระบบนี้ เพราะเป็นกระบวนการที่เรียกว่า พีไอ (PI-process

improvement) ระหว่างสร้าง วัสดุตัวไหนมีปัญหาโดยกระบวนการเราก็ต้องเปลี่ยนด้วย ผมทำละเอียดเก็บข้อมูลเลยว่าวัสดุตัวไหนบกพร่อง 13% จะเปลี่ยนยี่ห้อเปลี่ยนซัพพลายเออร์ทันที"

ทั้งหมดนี้จะมีผลต่อการปรับราคาบ้านในปีหน้าหรือไม่

"บ้านตามหลักปรับขึ้นราคาทุกปีเพราะต้นทุนเพิ่มปีละ 3-5% ส่วนหนึ่งเพราะอัตราเงินเฟ้อ ปีนี้มีเรื่องค่าแรง 300 บาท แต่รัฐบาลก็ชดเชยให้ด้วยการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 30% เหลือ 23% อย่างไรก็ถึงจะชดเชยกัน แต่ภาวะเงินเฟ้อก็ยังมีผลให้ต้องปรับขึ้นราคาบ้านเฉลี่ยปีละ 2-5% อยู่ดี

กับคำถามสุดท้ายที่ว่า นโยบายปรับราคาบ้านของพฤกษาฯ

"พฤกษาฯจะปรับราคาบ้านขึ้นน้อยกว่ารายอื่น เพราะนำระบบ REM มาใช้ ปีนี้เฉลี่ยทั้งปีมีประมาณ 2% ใกล้เคียงเงินเฟ้อ ทุกวันนี้เราทำทาวน์เฮาส์ขายราคา 9 แสน-1 ล้านบาท ขณะที่คู่แข่งต้องขายราคา 1.3-1.5 ล้านบาท"

และในฐานะบิ๊กเพลเยอร์จะส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ "…เรื่องปรับราคาบ้าน ไม่จำเป็นพฤกษาฯจะไม่ปรับ หรือปรับน้อยกว่า ช้ากว่าคู่แข่ง สำหรับคนซื้อบ้านถ้าพร้อมก็ซื้อได้เลย รอไปก็ไม่มีทางถูกลง" คำกล่าวแบบส่งสัญญาณทิศทางตลาดของ "เสี่ยทองมา"

ที่มาประชาชาติธุรกิจ

#############################################
เสี่ยทองมา ยังบอกว่า ต้นทุนกดได้อีกนะคร้าบ  ผม

By: Zhounat
Since: 13 ต.ค. 55 09:50:33