พอดีกำลังแต่งห้องใหม่ หาที่วางพัดลมให้ดูดีไม่ได้ เลยจะเปลี่ยนเป็นพัดลมเพดานซะเลย ถ้าในห้องทำงานที่ต้องนั่งนานๆ ใช้พัดลมเพดาน จะมีปัญหาเรื่องทำให้เป็นหวัด หรือเรื่องอื่นๆหรือเปล่าครับ
By: Acater
Since: 6 พ.ย. 55 12:12:23
พอดีกำลังแต่งห้องใหม่ หาที่วางพัดลมให้ดูดีไม่ได้ เลยจะเปลี่ยนเป็นพัดลมเพดานซะเลย ถ้าในห้องทำงานที่ต้องนั่งนานๆ ใช้พัดลมเพดาน จะมีปัญหาเรื่องทำให้เป็นหวัด หรือเรื่องอื่นๆหรือเปล่าครับ
By: Acater
Since: 6 พ.ย. 55 12:12:23
จะทำระเบียงไว้นั่งเล่นข้างบ้าน แต่ไม่มั่นใจว่า ทำติดพื้นดินไปเลย หรือว่า ทำยกขึ้นมาสูงๆ แล้วทำราวระเบียงดี รบกวนเพื่อนๆ ช่วยออกไอเดียหน่อยนะคะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
By: เอื้ออารี
Since: 6 พ.ย. 55 11:47:11
พี่ที่ทำแบบให้ ร่างแบบมาให้ดูคร่าวๆ ผมดูแล้วรู้สึกว่าหน้าต่างเยอะไป
ผมอยากลดจำนวนลงเพื่อประหยัดงบประมาณ อยากจะเอาหน้าต่าง
ด้านทิศตะวันออกออกไป มันจะทำให้มุมมองรูปภายนอกไม่สวยหรือเปล่า?
ห้องครัวก็เหมือนไม่ลงตัว จะปรับอย่างไรได้บ้าง? บานกระทุ้งในห้องน้ำ
ถ้าเปลี่ยนเป็นเกล็ดติดตาย จะขี้เหร่หรือป่าว? ถ้าจะให้ดูหรู ดูสวย
หลังคาและตัวบ้านควรใช้เฉดสีแบบไหนดี? มีอะไรแนะนำเพิ่มเติมบ้างครับ?
By: ล้นฟ้า
Since: 6 พ.ย. 55 11:52:32
ภาษีกับการขายบ้าน
อุทกภัยเมื่อปี 54 ที่ผ่านมา เป็นปัจจัยหลักปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้เราหลายๆ คนคิดจะขายบ้านเก่าแล้วไปซื้อใหม่ บ้างก็ด้วยเหตุผลที่ว่าบ้านเดิมของตนนั้นตั้งอยู่บนทางน้ำผ่าน กลัวจะท่วมอีก บ้างก็มีเหตุผลว่าน้ำท่วมครั้งที่ผ่านมามันหนักหนาจนการซ่อมบ้านนั้นเป็นตัว เลือกที่ได้ไม่คุ้มเสีย ว่าแล้วก็ตั้งใจจะขายบ้านแล้วไปหาบ้านใหม่ให้ไกลน้ำท่วมเพื่อความสบายใจ หลายคนคาดหวังกับการขายบ้านว่าจะได้เงินมาเป็นทุนในการซื้อบ้านใหม่ แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อต้องเจอกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการขายบ้านเดิม เรียกว่า ภาษีจากการขายบ้าน ซึ่งจะทำให้เงินที่ได้จากการขายบ้านลดน้อยลงกว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้มีทุนในการซื้อบ้านใหม่น้อยลง ต้องควักเนื้อตัวเองมากขึ้น ดังนั้น วันนี้เรามาดูกันสักนิดว่า ภาษีจากการขายบ้าน มีอะไรบ้าง
1. ภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่าย
การขายบ้าน ทำให้เกิด รายได้ ซึ่งต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หัก ณ ที่จ่าย โดยใช้ราคาประเมินของกรมที่ดินเป็นเกณฑ์ในการคำนวณภาษี ทั้งนี้ ผู้ขายสามารถนำจำนวนปีที่ถือครองบ้านมาคำนวณหักค่าใช่จ่ายได้ดังนี้% ส่วน เงินได้ตั้งแต่ 500,001 ถึง 1 ล้านบาท ต้องเสียภาษีในอัตรา 20% ใน ส่วนนี้ ขอให้จำไว้นะครับว่า หากเราเสียภาษี ณ ที่จ่ายที่สำนักงานที่ดินแล้ว ไม่จำเป็นต้องนำรายได้จากการขายบ้านไปรวมคำนวณภาษีตอนสิ้นปีอีกครับ
จำนวนปีที่ถือครองบ้าน
หักค่าใช้จ่าย (%)
1
92
2
84
3
77
4
71
5
65
6
60
7
55
8 ขึ้นไป
50
วิธีนับจำนวนปีถือครองนั้น ยึดหลักตามปี พ.ศ. ยกตัวอย่างเช่น ซื้อบ้านวันที่ 1 ธันวาคม 2553 และขายวันที่ 10 มกราคม 2555 เท่ากับจำนวนปีถือครอง 3 ปี สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 77% สมมติ ว่าราคาขายบ้านตั้งไว้ที่ 10 ล้านบาท โดยกรมที่ดินประเมินให้ 9 ล้าน เจ้าของบ้านต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หัก ณ ที่จ่ายดังนี้
ราคาประเมิน
9,000,000 บาท
หัก ค่าใช้จ่ายเหมา (ถือครอง 3 ปี หักได้ 77%)
6,930,000 บาท
คงเหลือ
2,070,000 บาท
หาร ปีที่ถือครอง (2,070,000 3)
690,000 บาท
คำนวณภาษี
– 100,000 แรก 5%
– 400,000 10%
– 190,000 20%
83,000 บาท
ภาษี ณ ที่จ่าย (ภาษี จำนวนปีที่ถือครอง)
249,000 บาท
จาก ตัวอย่างข้างต้น จะเห็นได้ว่าการคำนวณภาษีจากการขายบ้านจะแตกต่างจากการคำนวณภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดาประเภทอื่น นั่นคือ จะไม่มีการยกเว้นภาษีเงินได้สุทธิ 150,000 บาทแรก เนื่องจากไม่ใช่การคำนวณเงินได้จากเงินได้สุทธิ ส่งผลให้เงินได้ 100,000 บาทแรกต้องเสียภาษี 5,000 บาท ส่วนเงินได้ตั้งแต่ 200,000 ถึง 500,000 บาท ต้องเสียภาษีที่อัตรา 10
2. ภาษีธุรกิจเฉพาะ
ภาษี ประเภทนี้เป็นภาษีที่จะคิดในกรณีที่บ้านที่เราขายนั้น เราถือครองมาไม่ถึง 5 ปีครับ โดยนับตั้งแต่วันที่รับโอนบ้านมา ซึ่งภาษีธุรกิจเฉพาะนี้จะคิดอยู่ที่อัตรา 3.3% ของราคาขายจริงหรือราคาประเมิน แล้วแต่ว่าราคาไหนสูงกว่ากันก็ให้ใช้ราคานั้นคำนวณ
ตัวอย่าง เช่นกรณีที่กล่าวไปในข้อแรก หากเราขายบ้านในราคา 10 ล้านบาท โดยมีราคาประเมินอยู่ที่ 9 ล้านบาท และเราถือครองบ้านหลังนั้นมา 3 ปี (น้อยกว่า 5 ปี) เราจึงต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะอีก 3.3% โดยคำนวณจากราคาขายจริง (เพราะราคาสูงกว่าราคาประเมิน) ดังนั้น เราจึงต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะอีก 330,000 บาทครับ
ทั้งนี้ นอกจากเงื่อนไขถือครองบ้านไม่ต่ำกว่า 5 ปีแล้ว ยังมีเงื่อนไขอื่นๆ ที่ทำให้ไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะเพิ่มเติม ดังนี้ครับ
มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเกินกว่า 1 ปี ที่ได้รับโดนบ้านหลังนั้นมา
ถูกเวนคืนบ้านหรือที่ดิน
ขายบ้านหรือที่ดินที่ได้มาโดยมรดก
3. อากรแสตมป์
รายรับจากการขายบ้านหรือที่ดินนั้น จะต้องเสียค่าอากรแสตมป์ในอัตรา 0.5% ของราคาประเมิน ซึ่งในกรณีตัวอย่างข้างต้น ต้องเสียค่าอากรแสตมป์ 45,000 บาท (0.5 x 9,000,000) อย่างไรก็ตาม หากมีการเสียภาษีธุรกิจเฉพาะอยู่แล้ว จะได้รับการยกเว้นการเสียค่าอากรแสตมป์ หรือสรุปได้ว่า เมื่อเราขายบ้าน ก็จะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะหรือค่าอากรแสตมป์อย่างใดอย่างหนึ่ง นั่นเองครับ
4. ค่าธรรมเนียมการโอน
อัตราค่าธรรมเนียมกาโอนของกรมที่ดิน คิดอยู่ที่ 2% ของราคาประเมิน ซึ่งในกรณีตัวอย่างข้างต้น เราจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการโอน 180,000 บาท (0.2 x 9,000,000)
จะเห็นได้ว่า
จาก 4 ข้อที่กล่าวมานั้น รวมแล้วหากเราขายบ้านในราคา 10 ล้านบาท และมีราคาประเมินอยู่ที่ 9 ล้านบาท เราจะต้องจ่าย ภาษีจากการขายบ้าน ถึง 759,000 บาท หรือคิดเป็น 7.59% ของราคาขาย (ในกรณีต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ) หรือเสียขั้นต่ำอยู่ที่ 474,000 บาท คิดเป็น 4.74% ของราคาขาย (ในกรณีไม่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ จึงต้องเสียค่าอากรแสตมป์) ซึ่งก็นับว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงอยู่ไม่น้อยเลยนะครับ
และนี่แหละครับ ภาษีที่ควรรู้ ก่อนคิดขายบ้าน ที่นำมาฝากกันในวันนี้ หวังว่าจะเป็นตัวช่วยให้ทุกคนตัดสินใจได้อย่างรอบคอบยิ่งขึ้นนะครับ ทั้งนี้ ใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเงิน สามารถส่งอีเมล์มาปรึกษาทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนการเงินของเราได้โดย ไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ที่ k-weplan@kasikornbank.com ครับ หรือใครอยากอ่านสาระดีๆ ทุกเรื่องการเงิน ก็สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ www.k-weplan.com ครับ
By: ภูมิพัฒน์
Since: 6 พ.ย. 55 11:46:17
คือของเดิมเป็นไม้จริงวางบนพื้นปูนแต่ตอนนี้ผุพังแล้วครับ จะเปลี่ยนใหม่กำลังตัดสินใจว่าจะปูกระเบื้องเลยหรือว่าเปลี่ยนเป็นไม้เทียมดี (ตงเป็นเหล็ก) ในแง่ของการดูแล ความคงทน และความสวยงาม อันไหนดีกว่ากันครับ รบกวนขอความเห็นของเพื่อนๆ นิดนึง ของคุณครับ ใครพอจะมีรูปสวยๆให้ดูบ้างครับ
By: Oparic
Since: 6 พ.ย. 55 10:58:02
พอดีจะหาซื้อมาติดที่บ้านซักตัว เพราะไม่มีใครอยู่รดน้ำต้นไม้ เห็นที่งานบ้านและสวนมีขายแบบใช้ถ่านอันละ 2400 บ. ไม่รู้ว่าแพงเกินไปมั๊ย ? หรือซื้อตามโฮมโปร , ไทวัสดุ ถูกกว่าครับ ?
แล้วซื้อมาต่อเองเดินท่อเองยากมั๊ยครับ ?
ขอบคุณครับ
By: กั๊ตจัง
Since: 6 พ.ย. 55 11:18:06
จากการอ่านกระทู้ เครื่องทำน้ำอุ่นต้องเป็นชาร์ปเพราะน้ำแรงและทนทาน
(เครื่องทำร้อนต้องเป็นพานา)….. ก็เลยตัดสินใจว่าจะเลือกชาร์ปคะ
แถวบ้านหาได้ยากมาก เลยต้องซื้อผ่านเน็ตแทน เป็นร้านแถวบางแค (จขกท อยู่ปทุม)
งบประมาณประมาณ 3000-3800 บาทคะ
อยากได้ทนทาน น้ำไม่เบา (เดิมใช้พานา น้ำเบามากคะ) อุณหภูมิคงที่
จากที่ดู ชาร์ปมีแต่ตัวตัดไฟแบบ ELB เราต้องซื้อหรือหาอะไรมาเปลี่ยนไหมคะ
เพราะเป็น ELCB จะดีกว่า(เท่าที่อ่านมาคะ)
By: Moo VS Chang
Since: 6 พ.ย. 55 11:00:01
พอดีสนใจเครื่องเสียงมือสองของเดนอน รุ่นประมาณว่าปี ที่มีรหัส xx10ขึ้นไป ทั้ง 1610 หรือ 1910 แต่ไม่ทราบว่าราคามือสองประมาณเท่าไหร่ครับ ต่ำกว่า หมื่นบาทซื้อได้ไหม และก็การซื้อของมือสองมาใช้เสี่ยงไหมครับ ….
อยากขอความเห็นของหลายท่านในบอร์ดนี้ที่มีความรู้ด้านเครื่องเสียง แต่แปลกเนอะ ไม่ค่อยมีใครตั้งกระทู้เรื่องเครื่องเสียงเท่าไหร่
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
By: suttipongc
Since: 6 พ.ย. 55 10:42:03
มันมาจากท่อระบายน้ำในห้องน้ำำค่ะ ไม่ว่าตรงฝาท่อที่เป็นร่องๆ จะมีน้ำอยู่หรือไม่
ทำไงดีคะ เเล้วจะกำจัดแแมงหวี่อย่างไรดี เวลามันมาตอมทีนะค่ะ ยื๋ออ!!!!
ขอบคุณค่ะ
By: wtriki
Since: 6 พ.ย. 55 10:54:45
ปัจจุบันที่บ้าน + ร้านเกม มีมิเตอร์ไฟฟ้า 5 แอมป์ 2 ลูกคะ (มิเตอร์ 2 ลูก แต่มีอยู่ลูกนึง ที่ทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากยกเลิก หรือทนใช้ 5 แอมป์ต่อไป เพราะ แม่ จขกท ยกเลิกบ้านเลขที่ไปแล้ว เจ้าของเดิมก็ติดต่อไม่ได้)
อุปกรณ์ภายในบ้าน
คอม 30 เครื่อง จอ 18.5 – 20 นิ้ว (เกือบทั้งวันทั้งคืน)
ทีวี 29 2 เครื่อง (เปิดเป็นช่วง ๆ แต่ไม่เคยเปิดพร้อมกัน 2 เครื่อง)
ตู้เย็น 8 คิว
เครื่องซักผ้า 10 กก (ซักแต่ตอนเช้า)
หม้อหุงข้าว 1.8 2 อัน (หุงเฉพาะตอนเช้า)
พัดลม 6 ตัว (เปิดพร้อมกัน แทบทั้งวัน)
แอร์ 12000 btu 1 เครื่อง (เปิดแต่กลางคืน)
ปั๊มน้ำอัตโนมัติ
เครื่องทำน้ำอุ่น 3500 วัตต์
แอร์ 36000 btu 2 เครื่อง (กำลังจะติดใหม่ เปิดเกือบทั้งวัน)
จขกท. จะติดแอร์ 36000 เพิ่ม 2 เครื่อง เลยคิดว่าน่าจะเปลี่ยนมิเตอร์ไฟใหม่ แต่การไฟฟ้า กับช่างไฟที่รับเดินสายไฟ แนะนำมาไม่เหมือนกัน
ช่างไฟที่รับเดินไฟ แนะนำให้เปลี่ยนเป็น 15 แอมป์ แค่หม้อเดียว ส่วนอีกอันยังเป็น 5 แอมป์เหมือนเดิม
หม้อ 15 แอมป์ มีแอร์ 12000 กับ 36000*2
หม้อ 5 แอมป์ มีคอม 30 เครื่อง อุปกรณ์ภายในบ้านอยู่รวมกัน
การไฟฟ้า แนะนำให้ใช้หม้อ 5 แอมป์ เหมือนเดิม แต่เปลี่ยนสายไฟให้ใหญ่ขึ้น ถ้าหม้อระเบิด หรือไหม้แล้วค่อยมาเปลี่ยนใหม่!!!!
จขกท ลองคุยกับสามี แบบคนไม่มีความรู้เรื่องไฟฟ้า ตามที่ช่างเดินสายไฟแนะนำ หม้อ 5 แอมป์น่าจะเล็กเกินไป 15 แอมป์ กับแอร์ 3 ตัว จะไหวไหมค่ะ ถ้าตามที่ไฟฟ้าแนะนำมา 5 แอมป์ 2 ตัว จขกท คิดว่ามิเตอร์คงพังแน่นอน
ขอคำแนะนำเกี่ยวกับหม้อไฟฟ้าด้วยค่ะ ว่าจะใช้ขนาดไหนดี ตอนแรกอยากจะเพิ่มมิเตอร์เป็น 15 แอมป์ทั้งคู่ แต่ติดว่ามีอยู่ลูกนึง ปิดบ้านเลขที่ไปแล้ว ทำได้แค่ ยกเลิกหรือใช้ 5 แอมป์ต่อไป สรุปแล้วควรเปลี่ยนเป็นกี่แอมป์ดีค่ะ
*** งบมีจำกัดอยากประหยัดค่ะ ส่วนมาก กลางวันจะใช้ไฟในร้านเกมมากกว่า กลางคืนพอคนหมดถึงจะมาใช้ไฟในบ้านค่ะ
By: ซ่าจังฮู้
Since: 6 พ.ย. 55 10:30:12