เรากับแฟนตัดสินใจจะมีบ้านอยู่ในกรุงเทพ เพราะทำงานอยู่ในกรุงเทพทั้งคู่ เราไปดูมาหลายที่มาสรุปได้แถวซาฟารี จองพร้อมทำสัญญาไปเมื่อประมาณต้นเดือน มิ.ย. คิดว่าจะให้ทันมาตรการภาษีในเดือนนั้น สุดท้ายมันก็ไม่ทัน เพราะติดปัญหาเรื่องเอกสาร (ทางธนาคารและโครงการว่าเช่นนั้น)
โดยแฟนเรา เงินเดือนประมาณ 8,900 ค่าคอมเดือนละ 12,000 ไม่รวมเบี้ยเลี้ยงและค่าที่พัก อายุงาน3ปีกว่า หนี้สินแฟน 3,000บาทต่อเดือน เป็นบัตรเครดิต สำหรับเรา เงินเดือน 8,500 เบี้ยเลี้ยง 22,000 แต่เรารับเป็นเงินสด เดินบัญชีเองทุกเดือน ส่งประกันสังคมและภาษีทุกเดือน ของแฟนเรามีสลิปเงินเดือนครบถ้วนตลอดระยะเวลาที่ทำงานมา เอกสารทุกอย่างเราหาให้ครบถ้วนเท่าที่จะทำได้ ปัญหามันติดตรงเรารับเป็นเงินสด แต่ก็มีหลักฐานว่าเรามีงานทำ มีเงินได้ แค่ไม่มีสลิปเหมือนบริษัทแฟน อายุงานก็1 ปี แล้ว
เราก็รอถึงแม้ว่ามันจะนานมากแล้วก็ตาม แต่สิ่งที่เราเสียใจมากในวันนี้คือเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ทางแบงค์เหลืองได้กลับมาทำเรื่องให้เราอีกครั้งหนึง เราก็งงเพราะทำไปครั้งแรกเมื่อเดือนก่อน และก็ไม่ผ่านมาแล้ว แต่เราก็ดีใจคิดว่าเขาคงพิจารณาเราอีก ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี แต่ก็เกิดปัญหาอีกจนได้ เนื่องจากราคาประเมินบ้านตก ทางธนาคารก็ให้โครงการเเร่งทำ เพื่อจะมาประเมินรอบสอง
ธนาคารแจ้งตอนปลายเดือนที่แล้วเราก็เข้าไปดู แทบจะวันเว้นวัน เพราะบ้านยังไม่ปูกระเบื้อง ยังไม่มีประตู หน้าต่าง ทาสีรองพื้นไปรอบเดียว เราเข้าไปดู ไม่เคยไปเร่งช่าง ไม่เคยไปโวยวายอะไร ไม่เคยเรื่องมากอะไร เมื่อวันพุธเราเข้าไปดู ไม่มีคนงานทำอะไรเลย เราก็เข้าใจดีว่าวันนั้นมันเป็นวันหยุดคนงาน พอวันพฤหัส ที่ผ่านมาเราโทรไปหาเซล ที่ขายให้เรา บอกเราว่าจะเร่งให้ พอวันศุกร์เราเข้าไปดูอีกที ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับบ้านเราเลย สภาพทุกอย่างเหมือนวันพุธทุกประการ เราโทรไปถามเจ้าหน้าที่ธนาคาร ว่าทางโครงการโทรไปบอกหรือยัง ว่าจะให้มาประเมินเมื่อไหร่ เขาบอกว่าวันพุธ ที่14 แต่มองจากสภาพบ้านที่เกิดขึ้น เราคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ เราก็โทรไปหาเซล และก็ถามดีว่า "พี่ค่ะ เห็นธนาคารบอกว่าจะมาประเมิน วันพุธ แล้วจะทันมั้ยค่ะ " ด้วยน้ำเสียงดีๆ เพราะเรากลัวว่าถ้าประเมินแล้วราคาจะตกอีก แล้วเธอก็เริ่มด้วยคำพูดว่า "พี่ก็เร่งให้อยู่ พี่ก็ทำงานหลายอย่างนะ ไม่ได้ทำอยู่อย่างเดียว ตอนนี้ได้ราคา1,800,000 ทุกธนาคารเลยจะเอาที่1,800,000 หรือเปล่าล่ะ" เราก็ถามว่าถ้าไม่เอาที่ราคานี้แสดงว่าเงินจองก็จะไม่คืนใช่มั้ย แล้วเธอก็ว่าสายใช่เราไปเลยค่ะ คิดว่านี้คืออะไร ลูกค้าหรือเซลคือพระเจ้ากันแน่ค่ะ และนี่ก็ไม่ใช่แค่ครั้งแรกที่เธอมาพูแบบนี้กับเรา!!!