ขออนุญาตเล่าเรื่องก่อนนะคะ
เจ้าของบ้านใหม่หลังหนึ่งซึ่งมีบ้านอยู่ติดกับถนน ล้อมรั้วสร้างบ้านหลังใหม่
ทับตรงถนนเดิม ที่บ้านด้านหลัง อาศัยใช้ผ่าน ออกมาสู่ถนนหลัก
แต่เจ้าของบ้านได้ทำทางออกใหม่ ให้กับบ้านด้านหลังอีกเส้นทางหนึ่งแล้ว
(ถนนเส้นเดิมและเส้นใหม่เป็นที่ดินในโฉนดของเจ้าของบ้านใหม่)
ต่อมาบ้านด้านข้างต้องการขายที่ดิน ที่ดินจึงมารังวัด พบว่า
เจ้าของบ้านใหม่ทำรั้ว ล้ำเข้าไปในที่ดินของบ้านด้านหลัง
(เจ้าของบ้านตอนทำรั้วไม่ได้ขุดดูหมุด สร้างตามรั้วเดิม)
เจ้าของบ้านจึงเจรจาขอแลกที่กับบ้านด้านหลัง
เพื่อจะได้ไม่ต้องรื้อรั้ว แล้วสร้างใหม่
โดนขอแลกที่ถนนที่สร้างให้บ้านด้านหลังออก กับที่ที่ลุกล้ำไป
บ้านด้านหลังไม่ยอมบอกว่าทางออกนี้ออกมาเป็น 10 ปีแล้ว
จะให้เจ้าของบ้านใหม่รื้อรั้ว แล้วร่นเข้าไปในที่ของตนเอง
และถนนที่เป็นทางออกก็จะต้องได้ออกตามปกติ
ถ้าไม่ยอมทุบรั้วทิ้งเขาจะฟ้อง เจ้าของบ้านใหม่อาจจะต้องทุบบ้านทิ้ง เพราะไปทับถนนเดิมที่ออกมาเป็น 10 ปี กรณีเป็นไปได้ไหมคะ
ถนนที่เขาใช้ออกมา 10 ปีนั่นไม่ใช่ทางสาธารณะนะคะ ที่ดินในโฉนดของเจ้าของบ้านใหม่ที่เขาอนุญาตให้ผ่านบ้านเขามานานแล้ว เพราะว่าเป็นญาติกัน
ขอถามผู้รู้ค่ะว่า มีวิธีไหนไหมคะที่เจ้าของบ้านใหม่
จะไม่ต้องรื้อรั้วทิ้งแล้วสร้างใหม่ค่ะ
พอดีเพื่อนมาปรึกษาค่ะ
เราก็ไม่รู้เรื่องกฎหมายซะด้วยเลยรบกวนเพื่อนๆชาวชายคา
ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
เจ้าของบ้านใหม่ใจดีนะครับ สร้างรั้วปิดทาง ก็ยังหาทางออกใหม่ให้กับบ้านข้างหลังด้วย
ถ้าเจ้าของบ้านคนเดิม กับเจ้าของบ้านด้านหลัง เป็นญาติพี่น้องกัน และอาศัยผ่านทางเข้าออกโดยความสนิทสนมคุ้นเคยหรือถือวิสาสะ (แปลว่า อาศัยความเป็นกันเอง) อย่างนี้ ต่อให้เดินผ่านนานแค่ไหนก็ไม่เป็นทางภารจำยอมครับ หรือถึงแม้จะกลายเป็นภารจำยอม แต่ก็ยังไม่ได้ไปร้องขอต่อศาลเพื่อให้มีคำสั่งให้ถนนตกเป็นภารจำยอม อย่างนี้ เจ้าของใหม่ที่ซื้อถนนไปโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต ก็ย่อมได้สิทธิ์ในถนนไปโดยบริบุรณ์ และมีสิทธิจะสร้างบ้านทับไปบนถนนได้ ไม่จำเป็นต้องรื้อออก
ส่วนการที่เจ้าของที่ดินคนเก่าสร้างรั้วรุกล้ำเข้าไปในที่ดินแปลงหลังโดยเข้าใจผิด และครอบครองติดต่อกันมาโดยเจตนาเป็นเจ้าของ โดยสงบ เปิดเผย และครอบครองติดต่อกันมาเกิน 10 ปี หรือถึงจะไม่เกิน 10 ปี แต่เมื่อรวมระยะเวลาของเจ้าของคนใหม่ที่มาสร้างรั้วไปตามแนวรั้วเดิมแล้วเกิน 10 ปี ถ้าเป็นที่ดินมีโฉนด อย่างนี้ เจ้าของคนใหม่ย่อมได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินที่รุกล้ำโดยการครอบครองปรปักษ์ สามารถใช้ยันหรือต่อสู้กับเจ้าของที่ดินด้านหลังได้ แต่ถ้าจะให้ดี ควรจะร้องขอต่อศาลเพื่อให้สั่งแสดงว่าตนได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินที่รุกล้ำโดยการครอบครองปรปักษ์เพื่อจะใช้ยันกับทุกคนที่ซื้อที่ดินแปลงหลังไปได้
เคยอ่านเจอว่า ถ้าสร้างบ้าน ล้ำที่คนอื่นมาได้ สร้างเสร็จ ไม่โดนฟ้องซะ่ก่อน บ้านไม่ต้องทุบ แต่ถ้าเป็นรั้วโดนทุบได้ ลองหาดูครับ
ตามความเห็นที่ ๑ เลยค่ะ ขอยืนยัน
ยากที่จะคุยกันดีๆได้ ควรติดต่อทนายความมาเป็นผู้เจรจาจะเหมาะสมกว่าค่ะ
อีกอย่างการทุบการรื้อ การฟ้อง จนศาลตัดสินไม่ใช่วันสองวัน ส่วนใหญ่ท่านมักนัดไกล่เกลี่ยก่อน
บางทีอีกฝ่ายคำนวณค่าใช้จ่ายแล้ว อาจเห็นว่าไม่คุ้มก็ได้
ที่ตาบอดราคาประเมินต่ำ ค่าซื้อที่เพื่อเปิดทางออกราคาประเมินน่าจะสูงกว่ามาก
ที่ตาบอดทำได้ 2 วิธี
1.ทางจำเป็น ใช้อำนาจศาลเพื่อเป็นทางออก ทางจำเป็น ข้อนี้จะทางออก แค่คนเดินได้ แต่ทั้งนี้ต้องเป็นที่ทางตาบอดจริงๆเท่านั้น เคยมีฏีกาว่าที่ดินดิดคลอง ถือว่าไม่ใช่ที่ตาบอดไม่มีทางออกไม่ได้ เพราะถือว่าคลองสาธารณะคือทางออก ข้อนี้ไม่มีค่าทางออก ใช้อำนาจศาลบังคับใช้
2. ทางภาระจำยอม ส่วนนี้เป็นการตกลงเป็นทางออกเพิ่มเพื่อความสะดวก ต้องเสียเงิน ทางภาระจำยอม มีไดหลายทางเช่น ศาล ยินยอมแล้วไปจดทะเบียนที่กรมที่ดิน ด้วยเวลาเกิน 10 ปี ข้อนี้สามารถยกเลิกได้ถ้าไม่ได้ใช้ทางออกนานเกินกี่ปี จำไม่ได้
คุณละอ่อนธรรมคะ
การครอบครองปรปักษ์ ต้องเป็นกรณีครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของนะคะ
่ถ้าข้อเท็จจริงฟังว่า เป็นการครอบครองโดยเข้าใจผิด แม้ครอบครองโดยความสงบและโดยเปิดเผย แต่ไม่ถือเป็นการครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของค่ะ
…………..
แม้จะเป็นญาติกันแต่ถ้าเขาจะขายที่ดิน เขาคงคิดว่าไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว
ไม่ต้องเกรงใจกันเท่าเดิม
เจ้าของบ้านหลังใหม่เจรจาขอซื้อที่ดินดีมั้ยคะ
ถ้าตกลงราคากันได้ข้อพิพาทยุติแน่นอนค่ะ
ปล. ไม่เห็นรูปที่ดินก็เลยไม่ค่อยแน่ใจ
ว่าแต่ทำไมตัวละครมีทั้งบ้านหลังใหม่ บ้านด้านข้างและบ้านด้านหลัง
บ้านด้านข้างและบ้านด้านหลังเป็นบ้านเดียวกันรึเปล่าคะ