บาลาต์แบบเดิม กับ บาลาต์อิเล็กทรอนิกส์ แบบไหนดีกว่ากัน

กำลังทำบ้าน
อยู่ในช่วงต้องเลือกหลอดไฟในบ้าน  ซึ่งคงใช้หลอดฟูลเรสเซ็นต์
จากที่เคยสำผัสมาเอง  บาลาต์แบบเดิม 40  ดวง18ปีเสีย 3ดวง
บาลาต์ อิเล็กทรนิกส์  15ดวง 5ปีเสียไปแล้ว 4ดวง  
ผมเลยเข้าใจว่า บาลาต์อิเล็กทรนิกส์มีอายุสั้นกว่า  (ไม่ทราบว่าผมคิดไปเองหรือป่าว)  ตอนนี้รังเล เพราะตอนนี้ต้องติดใหม่อีกเกือบ50จุดเลยไม่รู้ว่าจะเลือกแบบไหนดี

วานผู้รู้ช่วยบอกหน่อยครับ

คำค้นหา:

  • วงจรบัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์
  • บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์

16 thoughts on “บาลาต์แบบเดิม กับ บาลาต์อิเล็กทรอนิกส์ แบบไหนดีกว่ากัน

  1. ม่วยถ่าว

    ไม่คิดไปเองหรอกค่ะ ธรรมชาติมันเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว

    คุณภาพของกระแสไฟฟ้าก็เป็นปัจจัยในการพิจารณา

    ถ้าคุณภาพของกระแสไฟฟ้าดี (เช่นไฟจากหม้อแปลง) อย่างนั้นอายุของบัลลาสธรรมดา กับบัลลาสอิเลคโทรนิคส์ก็จะไม่ต่างกันมาก

  2. แมลงปอร่อแร่

    ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ ขอถามเพิ่มว่า
    ถ้าเราต่อวงจร กันกระชากให้กับ เบรคเกอร์ที่คุมไฟแสงสว่างก่อนจะต่อเข้าหลอด จะช่วยยืดอายุ บัลลาสได้มั้ย
    เพราะผมก็สังเกต เหมือนกันว่า บัลลาสอิเลคโทรนิค เสียเร็วกว่าบัลลาสแบบแกนเหล็ก …..

  3. DATSUN

    ผมก็ขอถามเพิ่มนะครับ  วงจรกันกระชากคืออะไร

  4. สหายสายธาร

    แนะนำเป็น ballast electronics แทนballast แกนเหล็ก จะช่วยท่านประหยัดไฟได้อย่างน้อย 25% ส่วนอายุการใช้งาน ballast แกนเหล็กทนกว่าอยู่แล้ว (อันนี้ปกติ) 20 ปีก็อยู่ได้(แต่สายไฟไม่อยู่กับ ballastด้วยนะ)

    แล้วอะไรดีกว่าหล่ะ

    ballast แกนเหล็ก เดิมๆคือมีอัตราการสูญเสียในแกนเหล็ก โหลดเป็น L (ลักษณะเดียวกับมอเตอร์) ทำให้มีค่า power factor ต่ำ(ไม่ดีต่อระบบไฟฟ้า) แต่คุณสมบัติคือ ทน

    ballast electronics เป็นการใช้วงจรอิเล็คทรอนิคส์สร้างแรงดันสูงเพื่อจุดหลอด จึงไม่มีการสูญเสียในแกนเหล็ก(เพราะไม่มี ก็เลยประหยัดไฟส่วนนี้) แต่ballast ชนิดนี้จะสร้างสัญญาณรบกวนระบบเนื่องจากเป็นอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำ ทำให้อาจส่งผลรบกวนระบบ คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ (เห็นจอสั่นๆ) บ้าง แต่ไม่ถึงขั้นดูไม่ได้ คุณสมบัติคือ ประหยัด

    หักไปหักมาถ้าคิดค่าใช่จ่ายอย่างเดียว แกนเหล็กนำ ถ้าคิดเรื่องประหยัด ช่วยรัฐ โลกร้อน(มาแรง) และทันสมัย แนะนำ electronics

  5. webkit

    ตอนนี้ผมใช้หลอดตะเกียบ แทบจะทั้งหลังครับ

    แล้วหมดปัญหากับการต่อวงจรที่ยุ่งยาก
    ประหยัดไฟกว่า ควบคุมแสงได้ง่าย
    ห้องหนึ่งติด 10 ดวง ก็ได้
    อยากสว่างมาก ก็เปิดหมด  หรือ เลือกเปิดเป็นดวงๆ เป็นจุดๆ ก็ได้

    บริเวณที่ไม่ค่อยมีคนอยู่ ก็เปิด 1 ดวง  มีระดับแสงให้เลือกเยอะ
    ที่สำคัญราคาถูก อุปกรณ์ก็ถูก หลอดก็ถูก ค่าช่างก็ถูก

    ผมว่ารวมๆ แล้วประหยัดกว่าหลอดฟูลเรสเซ็นต์ นะ

  6. k1.

    ใช้มาทั้ง 2แบบ ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นแบบเดิมๆ แกนเหล็กครับ เพราะเกิดเหตุ มันระเบิดเบาๆ Fuse ถ้วย ขาดและเราก็ ไม่อยู่บ้าน คนที่บ้านก็ เปลี่ยนไม่เป็น มืดทั้งบ้าน และอีกอย่างเรื่องการกวน วิทยุ AM บางช่องฟังไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้ บาลาต์อิเล็กทรอนิกส์ เค้าพัฒนาไปถึงไหนแล้ว แต่ที่แน่ๆ ไม่เอาละครับ ใช้ แบบเดิมๆไป

  7. สือสาวฯ (สือสาวพราวเสน่ห์)

    ถ้าไม่ชอบหลอดตะเกียบ แนะนำให้ใช้บัลลาสต์แกนเหล็กความสูญเสียต่ำ (5-6 W) แทนบัลลาสต์รุ่นเก่า (บัลลาสต์แกนเหล็กธรรมดาขนาด 10 W) ดีกว่า

    ประหยัดไฟได้ครึ่งหนึ่งของบัลลาสต์แกนเหล็กธรรมดา แต่อายุการใช้งานเท่ากับบัลลาสต์รุ่นเก่าเลย คือใช้จนลืมไปเลยค่ะ ระยะเวลาคืนทุนประมาณปีเศษ มีหลายยี่ห้อให้เลือกค่ะ

  8. สือสาวพราวเสน่ห์

    ตอนนี้ก็มีหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ชนิดใหม่ ประหยัดไฟกว่าเดิมแต่ความสว่างมากยิ่งขึ้น เรียกว่าหลอดT5 ค่ะ แต่ต้องเป็นรางเฉพาะของมันเองเพราะหลอดจะผอมและยาวไม่เท่าหลอดไฟรุ่นเก่า ตอนนี้ กฟผ. ก็สนับสนุนทำให้ราคาถูกอยู่ค่ะ แต่บัลลาสต์มันจะติดตั้งภายในครบชุดของมันเองซึ่งเป็นบัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์ค่ะ

  9. วี

    ผมใช้บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกศ์ทั้งบ้าน ยกเว้นภายนอกอาคารที่เสี่ยงโดนฝน

    สรุปได้ว่า หลอดตะเกียบพังเร็วสุด

  10. นิสิต

    แบบอีเล็คทรอนิคส์ มีข้อดีคือประหยัดไฟกว่า เปิดแล้วมีแสงสว่างทันที
    แต่มันไม่ทนทานมากนัก ซึ่งจริงๆแล้ว ขึ้นกับตัวมันเองมากกว่าว่า ได้ถูก
    ออกแบบ และเลือกใช้อุปกรณ์ที่ดีพอหรือไม่

    เพราะอุปกรณ์ที่มีชิ้นส่วนหลายตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Elect. Cap. ที่
    มักจะเสื่อม หรือเสียง่ายมาก และอุปกรณ์เหล่านี้ มักถูกจับให้อยู่ในกล่อง
    เล็กๆ ที่ระบายความร้อนได้ยากอีกด้วย ทำให้อายุการใช้งานสั้นมาก

    นอกจากนี้ บัลลาสต์อิเล็กทรอนิคส์ที่ออกแบบมาไม่ดี ก็จะสร้างสัญญาณ
    รบกวนทางไฟฟ้าได้มาก หรือไม่ก็รบกวนทางแสง ทำให้อุปกรณ์รับแสง
    อินฟาเรด ที่ใช้รับสัญญาณจากรีโมทในเครื่องใช้ไฟฟ้า ทำงานได้ระยะทาง
    สั้นลงได้

  11. ไม่ได้โม้

    อีกหนึ่งเสียง บาลาสต์แบบเดิมทนกว่าแบบอิเลกทรอนิกส์  แต่ก็ใช้กันหลายปีไม่ต่ำกว่าสี่ห้าปีนะครับ แต่แบบเดิมบางทีเป็นสิบปีก็ยังใช่ได้

  12. NN

    ผมกลับชอบแบบอิเลกทรอนิกส์นะ เวลาไฟตก อย่างน้อยบ้านเราก็ไม่ดับ ไฟเปิดปิดได้ แค่แสงมันจะหรี่ๆ หรี่ๆก็ดีกว่ามืดแบบบ้า่นข้างๆละกันน่า

  13. monsungja

    เรื่องปกติระหว่าง แมกคานิกส์ กับอิเล็กทรอนิกส์ ได้อย่างเสียอย่าง ก็เลือกเอาเองจะเอาประหยัดไฟ ฤ จะเอาอายุการใช้งานกับความสะดวกในการไม่ต้องเปลี่ยนดีละครับ 666

  14. Ph

    ถ้าเรื่องความทน แบบขดลวดหนักๆ ทนกว่าแน่นอน ใชักันเป็นยี่สิบปี จนพลาสติกกรอบหมดก็ไม่เสีย  วันนึงไปไขน้อตยึดสายมันหน่อยกรอบแตกพังคามือเลย

    เดี๋ยวนี้มันมีแบบที่ไม่ใช่บัลลาสขดลวด คือมาเป็นรางสำเร็จยี่ห้อหนึ่ง กับบัลลาสเป็นตัวๆ เอาไปใส่แทนในรางเดิมที่มี  ผมว่าแบบบัลลาสเป็นตัวๆ ทนกว่ารางสำเร็จรูป  อย่างของที่บ้านเป็นหลอดกลม 32W ลองใช้อิเล็กทรอนิกส์บัลลาสมา(ยี่ห้อช่่างเป็นคนหามาให้)ใช้มา 3 ปีกว่าแล้วยังไม่มีเสียสักตัว (ใช้อยู่ร่วมๆ 30 กว่าตัว)  กำัลังรอดูอยู่ต่อไป  การเปิดใช้ก็เปิดตามปกติทั่วไป ไฟในบ้าน หน้าบ้าน  ฯลฯ

    ระบบสายไฟผมแยกเมนแสงสว่างทั้งหมดทุกดวง ออกจากสายเมนของปลั๊กไฟ จะมีเบรกเกอร์คุมระบบแสงสว่างต่างหาก ไม่ไปแชร์เบรกเกอร์หรือสายจากปลั๊ก   จะช่วยให้ลดปัญหาไฟไม่นิ่งได้เพราะเมื่อก่อนเช่นกดเครื่องดูดฝุ่นทีไฟจะหรี่ลงนิดๆ ตามจังหวะพอแยกระบบสายแล้วแสงจะแทบไม่เปลี่ยนแปลง แต่การแยกสายมันจะช่วยยืดอายุได้แค่ไหนคงตอบยากครับเพราะผมก็เพิ่งลองได้ไม่กี่ปี

  15. gas_d

    รักโลกก็เลือกอิเล็คทรอนิคครับ…
    แบบแกนเหล็กทน..ถึกกว่า แต่ ร้อนโคตร พอนานไปก็มีเสียงครางอื้อตลอดเวลา รำคาญ… เรื่องไปกวนทีวี เป็นทั้งสองแบบครับถ้าไม่ได้แยกสายไฟกันแบบท่านข้างบนว่า
    แบบแกนเหล็กบัลลาสไม่เสีย แต่หลอดไฟ, สตาร์ทเตอร์เสียแทนครับ ประเภทเปิดไฟแล้วกระพริบๆๆๆ พาจะเสียสายตาเอาครับ แบบอิเล็กทรอนิคเค้าเปิดปุ๊บติดปั๊บ มีซอฟสตาร์ดด้วย คือเปิดแล้วแสงจะค่อยๆสว่าง สายตาไม่เสีย บ้านเก่าผมเปลี่ยนเป็นอิเล็กทรอนิคทั้งหลังแล้ว
    จะว่าไปถ้าเป็นงานเวลาบัลลาสอิเล็กทรอนิคเสีย ส่วนมากก็เป็นที่ Capacitor ตัวนึงกับ Resistor อีกตัวนึง ค่าอะไหล่ไม่เกิน 15 บาทครับ ตัวแรกที่ซื้อมาใช้ราคาเกือบ 500 ตั้งแต่เริ่มมีขายใหม่ๆ เมื่อ 17 ปีที่แล้วเสียไป 1-2 ครั้งแล้วก็ซ่อมเอาครับ
    ผมเชียร์แบบนี้เพราะจบช่างอิเลคครับ….แฮ่ๆๆๆ

Comments are closed.