ผมเป็นช่างรับเหมาเปิดร้านแอร์เล็กๆแถวสุขุมวิท
อาทิตย์ที่แล้วโชคร้ายลูกค้าสั่งซื้อแอร์ไดกิ้นอินเวอเตอร์18000บีทียูไปติดร้านเสริมสวย1ตัวพอติดตั้งได้ประมาน1วัน ลูกค้าแจ้งว่ามีน้ำหยดหน้าเครื่องก็เข้าไปตรวจเช็คแก้ไขปรากฎว่าอาการเกิดจากการน้ำหยดออกจากรังผึ้งจึงได้แจ้งให้ทางศูนย์ไดกิ้น ขอให้ช่วยแก้ไขก็ได้รับคำตอบที่แสนจะน่าชื่นใจว่าแอร์ไดกิ้นห้ามไม่ให้ติดร้านเสริมสวยโดยได้มีการแจ้งกับดีลเลอร์ทุกเจ้าแล้ว และก็ไม่ได้มีการเข้าแก้ไขให้ลูกค้า ได้แต่คุยกับลูกค้าว่าจะต้องเปลียนแอร์ไดกิ้นเป็นแบบแขวนเพดานรุ่นพิเศษที่ไดกินผลิตขึ้นมาเฉพาะร้านเสริมสวยเท่านั้น โดยให้ผมสั่งซื้อสินค้าตัวใหม่ไปติดตั้งให้ลูกค้า และแอร์ตัวเก่าทางไดกินจะช่วยเหลือโดยการนำกลับไปแพกกิ้งให้ใหม่แล้วก็ขายให้ลูกค้ารายอื่นต่อไป ก็เลยงงว่าผมเป็นผู้ค้ารายเล็กๆคนนึงจะต้องรับภาระในความผิดของสินค้าที่มีมูลค่าถึง3หมื่นกว่าแล้วผมจะกล้าเอาแอร์ตัวนี้ไปขายให้กับใครเพราะถ้าเกิดโชคร้ายซ้ำสองไปติดให้ลูกค้ารายอื่นแล้วเป็นปัญหาอีกใครจะรับผิดชอบ ผมขอฝากให้เพื่อนๆหรือท่านผู้ใหญ่ช่วยแนะวิธีแก้ปัญหาให้ด้วยครับ
ขอทราบตำแหน่งน้ำหยดที่ชัดเจนสักหน่อย ตำแหน่งการติดตั้งกับเก้าอี้เสริมสวย ทำผมในร้านตำแหน่งไหน
สำหรับเรื่องร้านเสริมสวยน่าจะเพราะความชื้นจำนวนมาก มาควบแน่นที่เครื่องจึงทำให้เกิดน้ำที่มากกว่าปกติจนระบายไม่ทัน หรือมากจนหยดออกนอกคอล์ย(มั้ง)
การทราบตำแหน่งที่หยดน้ำ น่าจะพอแก้ไขได้โดยการบังทิศทางความชื้นที่จะมาปะทะเครื่องโดยตรง หรือการจัดการน้ำที่ควบแน่นที่คอล์ยให้มีการระบายได้ทันกับการควบแน่นของน้ำ
ฮ๊าาาา..ตกใจตรงเอาแอร์เก่ามาแพ็คกิ้ง แล้วขายให้ลูกค้ารายอื่นต่อไปนี่แหละ…
เนี่ยนะ…มาตรฐานของได้กิ้น…อืมมม์ จะได้จำไว้
มาตรฐานของได้กิ้น แอร์ตัวเก่า(มือสอง)ไปแพกกิ้งใหม่แล้วก็ขายให้ลูกค้า(มือหนึ่ง)รายอื่นต่อไป (ผมก็จะจําและบอกต่อๆกันไป ครับ)
ร้านเสริมสวยเป็นตึกแถวรุ่นเก่ากว้าง3.5เมตรยาว8เมตร สูง2.5เมตร ติดตั้งแอร์ด้านหน้าของร้าน ห่างจากโต๊ะแรกห่างจากแอรประมาน2.5เมตร
ขอตำแหน่งการหยดของน้ำที่ออกมาจากเครื่อง แบบเปิดฝาหน้าเครื่องแล้วเห็นๆ กับตาด้วยครับ
แอร์ไดกิ้นบางรุ่นถอดรางน้ำออกมาทำความสะอาดยากมากครับ ถ้าสภาพห้องมีฝุ่นเยอะ จะก่อปัญหารางน้ำอุดตันได้ง่าย
แต่คำแนะนำของไดกิ้นก็แย่มาก ขาดความรับผิดชอบต่อสังคม
ปัญหาที่ผมต้องการจากไดกิ้นก็คือวิธีแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นโดยวิธีการทางเทคนิคไม่ใช่เอากำปั้นทุบดิน ว่าแอร์ไดกิ้นห้ามติดร้านเสริมสวย ถ้าคุณจะห้ามติดร้านเสริมสวยก็ต้องแปะสติ๊กเกอร์ไว้ที่กล่องหรือที่เครื่องซะเลย เวลาลูกค้ามาซื้อแอร์ผมก็จะได้ตัด
ไดกิน ออกจากตัวเลือกที่เสนอขายให้ลูกค้า และที่ผมมาโพสในกะทู้นี้ผมเพียงต้องการวิธีแก้ใขปัญหาที่เป็นไปได้จากพี่ๆและเพื่อนๆช่างที่มีความรู้ทางด้านนี้ ซึ่งผมเชื่อว่าต้องมี่ช่างเทคนิคของยี่ห้ออื่นๆที่เจอปัญหาแบบนี้แล้วแก้ไขได้ ไม่ใช่จะมาให้ถอดเครื่องคืนแล้วแพกใหม่ขายให้ลูกค้ารายอื่น
น้ำหยดออกมาตามลมหน้าเครื่องครับ
ตอบคำถามผมด้วยเด้อ จะได้แนะนำให้ได้
ขอตำแหน่งการหยดของน้ำที่ออกมาจากเครื่อง แบบเปิดฝาหน้าเครื่องแล้วเห็นๆ กับตาด้วยครับ
ปล.ผมเคยอยู่ในวงการแอร์มาก่อน
โอเค ผมทราบปัญหาแล้ว ขอเวลาพิมพ์แป๊บ
ขอถามอีกนิดนึง ร้านทำผมมีช่วงที่ผนังโดนแดดแรงๆ บ้างไหม
กับไดกิ้นแนะนำเครื่องที่เหมาะกับร้านทำผมนี่กี่ BTU ครับ
ตอนนี้ลูกค้าผมกำลังจะไปร้องเรียนกับ สคบ เพราะไดกินไปบอกลูกค้าว่าแอร์ไดกินห้ามติดร้านเสริมสวย ผมจะทำไงดี
ไม่โดนแดดเลยครับ หน้าร้านติดถนนอยู่ใต้สพานลอย ไดกิ้นแนะนำว่าจะต้องผลิดแผงคอยล์ใหม่โดยขยายช่องห่างระหว่างฟินให้กว้างขึ้นครับ เป็นขนาด18000เท่าเดิม
ปัญหาคือ น้ำที่ควบแน่นที่คอล์ยมีมากๆ จนลมที่ดูดเข้ามาพาหยดน้ำออกมาเป่าข้างนอกเลย
วิธีแก้คือต้องลดความชื้นในห้องให้มากที่สุด แต่ดูจากขนาดห้องที่คุณว่ามาห้องใหญ่มากเลยครับ 28 ตร.ม ห้องที่มีความชื้นมากหมายถึงการงานของแอร์ที่หนักมาก ไสมารถใช้สูตรการคำนวณ 28*600 หรือ 28* 700 ได้หรอกครับ ซึ่งจริงๆ แล้วห้องแบบนี้ควรใช้สูตร 28 *1000 จึงจะเหมาะสม
แต่ถ้าติดแอร์รวมแล้ว 28000 BTU แล้วยังมีน้ำกระเด็นออกมา(ซึ่งผมว่าไม่น่าจะกระเด็นแล้วนะ) ก็น่าจะเป็นเรื่องการดีไซน์ของแอร์แบบ wall type แล้ว เพราะน่าจะควบแน่นน้ำลงถาดได้ทัน
เคย*มีแอร์ไดกิ้นอยู่ตัวนึง
เสียงดังมากแม้เปิดโหมดSleep แล้วแอร์ก็ตันบ่อยมากเหมือนกัน
ในห้องมีแอร์วอลไทพ ขนาด20000บีทียู อยู่อีกหนึ่งตัวครับ แต่ไม่มีอาการน้ำหยดมีแต่อาการเป็นหมอกออกมาครับ
18000 BTU น้อยไปกับห้องที่มีความชื้นสูงครับ แต่เป็นเรื่องจริงครับที่การติดแอร์ที่ BTU ที่เหมาะสมมันเปลืองค่าใช้จ่ายที่สูงมาก(ค่าไฟด้วย)
ร้านทำผม นอกจากความชื้นสูงมาก มีคนในห้อง(ช่วงเยอะๆ) 5 – 7 คน ถ้าห้องเป็นกระจกอีก ความร้อนเข้าห้องได้ง่ายมาก ลูกค้าเปิดประตูทีนึงความร้อนเข้าห้องไม่รู้เท่าไหร่
BTU ที่เหมาะสมไม่ใช่ 18000 แน่นอนครับ
อ้อ แล้วการติดตั้งที่หน้าประตู หรือใกล้กับประตูเข้าออก เป็นตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมครับ ถึงมันจะประหยัดท่อแอร์เพราะไม่ต้องต่อเครื่องไปด้านหลังห้อง
ตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการติดตั้งสำหรับร้านค้าต่างๆ(ไม่จำกัดว่าต้องเป็นร้านทำผม) คือให้ห่างจากประตูที่มีการเปิดเข้าออกครับ
จากคห.16 แปลว่า BTU โอเคแล้ว
ทางไดกิ้นวิเคราะห์ได้ถูกต้องแล้วครับ มันเป็นข้อจำกัดทางการออกแบบ ที่ไม่สามารถทิ้งน้ำได้ทันจนดูดน้ำจากคอล์ยเป่าออกมา
ถ้าจะให้ win-win ด้วยกัน ก็ต้องแจ้งทางร้านทำผมถึงข้อจำกัดเรื่องแอร์ที่ซื้อไป แล้วเอาแอร์ที่ทางไดกิ้นแนะนำมาติดตั้งให้ใหม่ ขอโทษเรื่องข้อจำกัดนี้ แจ้งค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น(หรือเปล่า) เมื่อเทียบกับตัวเก่า
win แรกคือ ลูกค้าจะทราบว่าคุณมีความรับผิดชอบที่จะดูแลลูกค้า ลูกค้าที่เจอปัญหาแล้วได้รับการแก้ไขด้วยดีมักจะบอกต่อ(ดูได้ในกระทู้ต่างๆ ห้องชายคานี่แหละ) ถ้าคุณได้ใจลูกค้า ลูกค้าจะช่วยแนะนำ
win2 คือนำแอร์ที่ติดตั้งไปแล้วมาขายราคาพิเศษ(ลดไปกี่พัน ก็แล้วแต่ตั้ง) สาเหตุที่เป็น win เพราะลูกค้าจะซื้อได้ในราคาถูกลง แล้วลูกค้าจะบอกต่อถึงความซื่อสัตย์ของคุณว่า เครื่องที่เพิ่งติดตั้งมา ก็บอกความจริงว่าติดตั้งมาแล้ว ไม่ใช่มาบอกว่าเป็นเครื่องใหม่
win3 เครื่องนี้จะทำให้คุณขายได้เร็วขึ้น(แม้จะต้องกำไรลดลง)
ข้อเสียคือ เงินจมไป 3 หมื่น จนกว่าจะขายได้
win4 คือคุณจะมีประสบการณ์ในการติดตั้งแอร์มากขึ้น ซึ่งทำให้มีการทำงานที่ดียิ่งขึ้น
ทุกสิ่งถ้ามองในแง่ร้าย อะไรๆ ก็แย่ไปหมด แต่ถ้ามองในแง่บวกถ้าคุณผ่านเหตุการณ์นี้ด้วยดี คุณจะรู้สึกว่าเหตุการณ์ข้างหน้าถ้าเกิดขึ้นอีก(คนละกรณีกับร้านทำผม) คุณก็สามารถผ่านมันไปได้
ขอให้คุณโชคดีและผ่านไปได้ด้วยดี
ปล.ปกติห้องนี้ผมไม่ได้เข้ามาบ่อยอ่ะนะ
ลูกค้าให้ติดตำแหน่งนั้นแต่ประตูเข้าออกอยู่ลึกเข้ามาจากแนวกระจกหน้าร้านประ มานหนึ่งเมตร เปิดประตูเข้าร้านแอร์ตัวที่สองอยู่ด้านขวาห่างจากประตู1เมตร เย็นน้ำไม่หยด
ขอบคุณ คุณyoyoland ครับ
ได้ความรู้เยอะเลยครับ เป็นประโยชน์มาก
เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 18 ครับ ขอบคุณสำหรับความรู้เพิ่มเติมด้วย
เป็นกำลังใจให้กับ จขกท.ทำธุรกิจมีคุณธรรม ขอให้ร้านเจริญรุ่งเรืองครับ
ผมว่า จขกท ต้องไปขอข้อห้ามแอร์ยี่ห้อนี้กับ ดิลเลอร์ที่ซื้อแอร์แล้วละครับ
อาจเป็นได้ ว่า เค้าจะไม่อนุญาตให้ติดตั้ง ร้าน ข้าวมันไก่ ร้านส้มตำ ร้าน ฯลฯ อีกเพียบ
เข้ามาตอบอีกทีนึง เดี๋ยวมีการเข้าใจผิด
แอร์ที่นิยมติดตามบ้านทั่วไปแบบ split type(ข้างบนผมเขียน wall tpye ผมเขียนผิดนะ) มีข้อจำกัดการออกแบบที่เหมือนๆ กันทุกยี่ห้อครับ เมื่อเจอห้องที่มีความชื้นสูงมากๆ จนไม่สามารถควบแน่นไหลลงถาดน้ำทิ้งได้ทัน แอร์จะพ่นน้ำออกมา
แอร์ split type จะมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับ BTU ที่ได้ มีขนาดเล็กกว่าแอร์สมัยก่อนที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ เพราะการออกแบบ
และหนึ่งในการออกแบบที่ทำให้แอร์มีขนาดเล็กลงก็คือการเพิ่มความถี่ของครีบแอร์ เมื่อเพื่มความถี่มากการไหลของน้ำที่ควบแน่นจึงทำได้ช้า ประกอบกับ แอร์ split type มีการออกแบบให้ดูดลมเข้าเครื่อง 2 ทางคือ ด้านบน และด้านหน้า ด้านหน้าน่ะไม่เท่าไหร่น้ำที่ควบแน่นน่าจะพอไหลทัน(คิดว่านะ) แต่ด้านบนที่ลมดูดเข้ามา ถ้าคอล์ยแอร์ระบายน้ำไม่ทันเมื่อไหร่ โดนลมดูดเป่าน้ำออกมาได้
จากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นน่าจะเรียกเป็นข้อห้ามเลยก็ว่าได้ว่าถ้าติดตั้งแอร์ในร้านทำผม(หรือห้องที่มีความชื้นสูงมาก) ติดตั้งแอร์ split type ไม่ได้
จริงๆ เหตุการณ์แอร์ในร้านทำผม ผมพอเคยได้ยินมาบ้างแต่ไม่เคยเจอกรณีกับตัวเองมาก่อน เลยทำให้ต้องถามที่มาที่ไปก่อนถึงให้คำแนะนำได้
การตอบกระทู้นี้ ทำให้ผมได้ความรู้เพิ่มขึ้นนะเนี่ย
ทึ่งกับคำแนะนำของไดกิ้น
การไม่ซื่อสัตย์กับลูกค้า หากินได้ไม่นานหรอกครับ
จขกท.นำมาขายโดยลดราคาลงมาจะดีกว่า และบอกความจริงไปด้วย
ลูกค้ารับได้ก็ขาย สบายใจทั้งสองฝ่าย
.
แอร์ตัวเก่าลองบอกลูกค้าคนเดิมว่าสนใจจะติดห้องอื่นหรือเปล่า หรือมีเพื่อนๆญาติๆของลูกค้าสนใจไหม ลดราคาให้พิเศษ ฟรีค่าติดตั้ง เผื่อจะขายได้ง่ายขึ้นบ้างครับ
ร้อง สคบ เลยครับ เป็นความผิดของไดกิ้น ที่ไม่ได้ทำคู่มือ หรือป้ายเตือนไว้ที่ตัว product ทำให้ผู้บริโภคเกิดอาการสับสน
ผมสงสัยว่า ถ้าปรับพัดลมแอร์ให้แรงสุดตลอด จะช่วยลดปัญหานี้ได้ไหมครับ เผื่อจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนแอร์ใหม่
จากประสบการณ์ในส่วนของผู้ใช้ ผมว่าแอร์ไดกิ้นมันเน้นความเงียบ ทำให้ลมที่เป่าออกมาไม่ค่อยแรงเท่าไหร่เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ
ส่วนเรื่องการห้ามใช้ในสถานที่บางแห่ง ต้องดูในคู่มือ น่าจะมีระบุไว้ว่า ไม่ควรติดตั้งแอร์ไว้สถานที่ลักษณะใดบ้าง แต่คงไม่ระบุตรง ๆ ขนาดว่าร้านเสริมสวยหรอก
ปัญหาแอร์น้ำหยดผมเองก็เคยเจอกับยีห้ออื่นๆ เช่นมิตซูกับซัยโจแต่ก็แก้จบเนื่องจากเป็นระบบโรตารี่ธรรมดา แต่กะไดกิ้นอินเวอเตอร์ ผมก็ลองแก้เบื้องต้นไปแล้วแต่ก็ยังไม่หายจึงแจ้งศูนย์เผื่อจะมีวิธีแก้ไขในเชิงเทคนิคที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่ตอบแบบกำปั้นทุบดินและไม่หาวิธีที่ดีที่สุดเพื่อลูกค้า
และสำหรับเรื่องยกแอร์คืนจากลูกค้าแล้วแพกใหม่ให้ผมขายให้ลูกค้ารายอื่นนั้นผมรับไม่ได้จริงๆ ไม่ว่าจะให้ผมไปขายให้ลูกค้าเป็นแอรเมือ2ผมก็ไม่เอาครับ ยกเว้นแต่บริษัทจะนำสินค้าตัวใหม่คืนให้ผม เพราะผมเป็นผู้ค้าจริงๆ ถ้าแอรมือ2ก็ต้องเป็นของเมือ2 แต่ผมซื้อสินค้าจากบริษัทเป็นของใหม่และเป็นเงินสดครับ เวลาซื้อต้องโอนเงินก่อนแล้วค่อยวิ่งไปแบกมาจากโกดังที่ร่มเกล้า แล้วไดกิ้นจะให้ผมรับสินค้าคืนมาแล้วขายเป็นของมือ2 ผมไม่กล้าทำครับ
เรื่องการปรับแรงลมยิ่งแรงน้ำยิ่งออกเยอะครับ และวิธีแก้ในเบื้องต้นนั้นผมแก้โดยใช้สปีดพัดลมที่เบอร2ก็ช่วยให้หยดน้อยลงครับและเพิ่มอุณหภูมิสูงขึ้น27องศาเพื่อให้มี่การตัดเร็วขึ้นครับ
ไดกิ้นยังไม่มีคำตอบให้ผมครับ
กระทู้นี้ ไดกินไม่ตอบครับ
คงต้องรอโอกาสหน้า
ถ้ามีร้านส้มตำหรือร้านข้าวมันไก่ร้านก้วยเตี่ยวจะได้รองแนะนำให้ลูกค้าลองใช้ดูครับ
เท่าที่อ่านมา daikin ไม่ผิดนี่ครับ เพราะลูกค้าใช้งานผิดประเภทเอง
จะโทษที่ไม่แจ้งเตือนก่อนก็ไม่ได้เพราะเค้าไม่รู้ว่าลูกค้าเอาไปติดห้องอะไร
ผู้รับเหมาเป็นคนไปซื้อเอง และทุกแบรนด์ก็มีปัญหานี้เหมือนกันหมด
ทาง daikin สามารถอ้างได้ว่าลูกค้าเลือกแอร์ที่มี btu ต่ำเกินไปจึงเกิดปัญหา
ไดกิ้นไม่ผิดครับผมผิดเองที่ขายไดกิ้นครับ
เป็นกำลังใจให้คุณ papatee
..
ผมไม่รู้เรื่องเทคนิค แต่ค้าขายเจอแบบนี้ก็เซ็ง
จริงๆ ถ้าเค้าบอกว่ารุ่นนี้ไม่สามารถติดร้านทำผมได้จะต้องมีหนังสือแจ้งกับผู้ติดตั้งครับ หรืออาจระบุในคู่มือหรือ catalogue
กรณีที่ให้เอาแอร์ที่ติดตั้งแล้วถอดออกไปขายใหม่เนี่ย ผมคิดว่าทางบริษัทฯ ควรจะทำ CN คืนลูกค้าตามที่ระบุไปเลยแล้วให้ทางช่างแจ้งกับลูกค้ารายใหม่ด้วยครับว่าแอร์ติดตั้งแล้ว(จริงดูที่ท่อน้ำยาก็รู้) บางบริษัท เค้าจะซื้อคืนจากผู้ติดตั้งโดยให้ผู้ติดตั้งจ่ายเงินบางส่วน( share loss) แล้ว บริษัทเค้าจะไปขายเครื่องเกรด B แทนครับ เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหากับผู้บริโภคที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ครับ
สรุปแล้วครับ
ผมยินดีรับผิดชอบ เปลี่ยนเครื่องให้ลูกค้าไปแล้วครับ เป็นแครเรียร์แบบแขวนเพดานส่วนตัวเก่าไดกิ้นนำไปแพคกิ้งให้ใหม่ครับ
ท่านใดสนใจรับไว้ใช้ผมยินดีขายขาดทุนให้ครับ แจ้งที่หลังไมค์นะครับ
แอร์ไม่มีปัญหาครับ แต่เป็นความผิดของผมเองครับที่ไม่ดูพื้นที่ติดตั้งให้ดี