เนื่องจากบ้านไม่มีคนอยู่แล้ว แถวรามอินทรา ซ.คู้บอน แต่โต๊ะตู้เตียงแอร์ ตู้เย็นยังอยู่ ครั้งก่อนคนแถวบ้านคุยกับเรา เราว่าไม่รู้ว่าจะให้เช่าหรือขายดี เขาบอกว่าบ้านตรงข้ามก็มีคนมาเช่าอยู่ เราถามว่าเขาคิดเท่าไร เขาบอกว่า 5,000 บาทต่อเดือน และบอกกับเราอีกว่า จะไปบอกเพื่อนเขาให้ลองมาดูนะ เพราะเห็นเขาอย่างเช่าบ้านละแวกนี้
ต่อมามีคนโทร.มาขอเช่า เขาบอกว่าเขาเป็นน้องชายของบ้านข้าง ๆ (บ้านที่เราเคยคุยกับเขา ตามที่กล่าวถึงข้างบนค่ะ) แนะนำเขามา (เราคิดในใจว่า ทำไมตอนที่คุยกับคนข้างบ้าน ไม่เห็นเขาบอกว่า บ้านนั้นน้องชายเขาเช่าอยู่เองล่ะ และไม่เห็นบอกว่า น้องชายอีกคนกำลังหาบ้านเช่าเลย แต่บอกว่าจะไปบอกเพื่อนเขา) เราบอกว่าคิดค่าเช่าเหมือนบ้านตรงกันข้าม 5,000 บาท เขาบอกว่า บ้านนั้นเป็นของน้องชายเขามาเช่าอยู่เอง คิดแค่ 4,700 เราก็บอกว่า ก็พี่คนนั้นเขาบอกว่า 5,000 บาทนี่นา
เขาขอ 4,700 บอกว่า จะดูแลบ้านให้ดี และกะจะอยู่ยาวด้วย เราบอกว่าเราตัดสินใจไม่ได้ เพราะบ้านนี้ พี่สาวก็ออกเงินด้วย ต้องถามพี่เขาก่อน
เราไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องการให้เช่าบ้าน (แต่ตอนที่แม่อยู่ แม่เคยเล่าว่า มีบ้านหลังติดกับเรา ถูกโกงค่าเช่า ไม่จ่ายเงิน แถมเปลี่ยนกลอนประตูอีก เจ้าของบ้านต้องมาคอยหาทุกวัน) เราเองก็กลัว เพราะว่า
1. เรื่องจุกจิกมันต้องมีอีกเยอะ เช่น ค่าน้ำ,ค่าไฟ ถ้าเขาใช้กันเดือนละเป็นหมื่นขึ้นมา เราจะทำอย่างไร
2. เฟอร์นิเจอร์ในบ้านอีกล่ะ เขาจะเอาของเราไปขายไหม
3. แล้วเวลามีอะไรเสีย เขาจะคอยตามเรามาให้ซ่อมไหม แล้วแบบไหนที่เราไม่ต้องซ่อม ให้เขาซ่อมเองได้
4. เราจะเชื่อใจเขาได้แค่ไหน ต้องมีคนค้ำประกันเขาไหม
5. ประกันอัคคีภัย เราควรทำไหม หรือให้เขาทำ
6. เราต้องเสียภาษีอะไรเพิ่มไหม จากการให้เช่าบ้าน
7. สัญญาเช่าควรเขียนแบบไหนที่จะป้องกันตัวเรา และตัวเขาเองก็คงคิดเหมือนกัน
8. เราสับสนในคำพูดของเขา จึงคิดอยู่ว่าน่าไว้ใจไหม
เอาไงดีล่ะ ใจจริงก็อยากขายมากกว่า แต่มันไม่ใช่ว่าจะขายได้ง่าย ขายแค่ 1 ล้าน พร้อมเฟอร์ฯ ไม่รู้มีคนเอาไหมนะ ยิ่งถ้าบ้านปล่อยนาน ๆ ก็ยิ่งแย่ ไม่ใช่หรือคะ? (ถ้าแม่เราอยู่ แม่คงไม่ให้เช่าแน่เลย)
By: arale_1910
Since: 5 พ.ย. 55 12:12:15