ขอวิธีเช็คไฟแบตเตอร์รี่รถยนต์รั่วหน่อยครับ

แบตรถยนต์ เปลืองมาก  ไม่ทราบว่ารั่วที่ใด  
1.เราจะใช้เครื่องมืออะไรตรวจเช็คเองได้บ้าง
2.เช็คอย่างไร  ถ้าเครื่องมือดังกล่าวไม่มี

คำค้นหา:

  • วิธีเช็คไฟรั่ว รถยนต์
  • การเช็คไฟรั่วรถยนต์
  • เช็คไฟรั่ว รถยนต์
  • เช็คไฟรั่วรถยนต์
  • ไฟรถยนต์รั่ว

8 thoughts on “ขอวิธีเช็คไฟแบตเตอร์รี่รถยนต์รั่วหน่อยครับ

  1. Ph

    ถ้าหมายถึงรั่วแบบไฟหมดแบตหลังจากจอดทิ้งไว้ระยะหนึ่ง
    อันนี้เป็นไปได้ว่าอาจจะรั่วจริง หรืออาจจะเป็นพวกอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่นระบบกันขโมย เครื่องเสียง หรืออื่นๆ ที่ต่อไฟแบบไม่ผ่านสวิทช์กุญแจจะยังกินไฟแบตน้อยๆอยู่้ตลอด

    วิธีเช็คแบบคร่าวๆ จะใช้หลอดไฟแบบไส้ เอาหลอดประมาณ 7W จากไฟหรี่หรือไฟเพดานก็ได้(หลอด watt สูงจะไม่ติดถ้ารั่วน้อยๆจะไม่รู้)

    ให้ปิดสวิทช์กุญแจและดึงออก  ปิดไฟทุกดวง ปิดประตูรถด้วยเพื่อดับหลอดไฟเพดานและไฟโชว์   จากนั้นถอดสายแบตขั้วลบออก(ขั้วบวกไม่ต้อง)แล้วเอาปลายหนึ่งของหลอดไฟแตะที่ขั้วแบต อีกปลายของหลอดแตะที่สายที่ถอดออก(มองว่าเหมือนใช้หลอดไฟเป็นตัวเชื่อมวงจร) หากต่อแล้วหลอดติดแสดงว่ามีไฟรั่วอยู่  หลอดสว่างมากก็คือรั่วมาก  (หลอดอาจติดนิดๆ หากคุณมีอุปกรณ์เสริมที่ใช้ไฟตรงๆเยอะ)

    เมื่อพบว่ามันรั่วแล้ว วิธีหาคือให้ต่อหลอดไฟไว้แบบนั้นก่อน แล้วค่อยๆลองดึงฟิวส์ออกทีละตัว ดูว่าวงจรไหนที่รั่วถ้าดึงถูกตัวหลอดไฟจะดับลงทันที

    การทดสอบแบบนี้จะทำให้นาฬิกาเวลาหายต้องตั้งใหม่(เพราะไปถอดขั้วแบต)และวิทยุอาจต้องตั้งสถานีและอื่นๆใหม่

    ถ้ามีมัลติมิเตอร์ให้ปรับไปที่ย่านวัดกระแส DC แล้วต่ออนุกรม(ต่อแทนที่หลอดไฟนอกนั้นเหมือนกัน)จะดีกว่าตรงที่เห็นปริมาณกระแสเลยว่าไหลอยู่กี่มิลลิแอมป์

  2. Ph

    ถ้ารถรุ่นใหม่ๆ การไปถอดขั้วแบตอาจกระทบกับระบบ ECU หรือกันขโมยได้
    ถ้าไม่แน่ใจระบบ อาจต้องยอมเสียเวลาเลี้ยงไฟไว้ด้วยแบตลูกอื่นก่อนและทำการต่อแอมป์มิเตอร์ให้เสร็จ(ต่อให้แน่นหนามั่นคงไม่หลุด)แล้วค่อยปลดแบตที่ใช้เลี้่ยงไฟ ทำเพื่อให้ทุกขั้นตอนการต่อสายไม่ทำให้ไฟในรถดับ จากนั้นค่อยอ่านค่ากระแสบนมิเตอร์
    ตอนจะถอดมิเตอร์ก็ให้เลี้ยงไฟไว้ก่อนเช่นกันจนกว่าจะติดตั้งขั้วแบตคืนจึงปลดแบตเสริมที่ใช้เลี้ยงไฟออกได้

    **ระหว่างที่ใช้แอมป์มิเตอร์ ห้ามเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าใดๆในรถ หรือแม้แต่บิดกุญแจ ON เพราะกระแสจำนวนมากจะวิ่งผ่านมิเตอร์ อาจทำให้เสียหายได้

  3. BRAVO.carbine,

    วิธีการหาไฟรถยนต์รั่วขั้นแรก    คือถอดสาย ขั้ว + หรือ – ก็ได้ ออกมาแล้วเขี่ย

    ไปที่ขั้วที่ถอดมาให้ไฟ สปาร์ค  แป๊รบ ๆ    ถ้าไม่มี หรือมีการแล๊ป ออกมาน้อยมาก

    แสดงว่า ไม่มีไฟรั่ว มีแต่ไฟเลี้ยงเล็กน้อย แบตฯ มีปัญหา คือเก็บไฟไม่อยู่        

    แต่ถ้าเขี่ย แล้วแล๊ป  แปร๊บ ๆ  แบบออกจะมีไฟสปารค์มากหน่อย แสดงว่ามี

    ไฟที่กำลังใช้ในระบบ ต้องเช็คหาที่รั่วอีกทีครับ   อันนี่เป็นการเช็คเบืองต้นนะครับ

  4. อัคลาส (อัคลาส)

    ขอเสริมว่ารถบางยี่ห้อรุ่นใหม่ห้ามถอดขั้วแบต จำต้องมีไฟเลี้ยงระบบ เช่นรถเบนซ์ และวอลโว่บางรุ่นครับ หากเผลอไปถอดอาจต้องกลับไปให้ 0 จัดการ
    สมสุติการเปลี่ยนแบต จำต้องมีไฟไปเลี้ยงระบบตลอดครับ

  5. naytee

    การที่ไฟแบตหายไปอย่างง่ายดาย   บางทีอาจจะเป็นที่ รีเลย์สำหรับคอมแอร์ ต่อตลอดเวลาไม่ตัด (คือมีอาการหน้า คอนแทครีเลย์ ช๊อต เชื่อมวงจรไฟไว้ให้รีลย์ทำงานตลอดเวลาแม้จะถอดกุญแจรถออกไปแล้ว) ก็ได้
      ลองเช็คง่าย ๆ ด้วยการ  เมื่อจอดรถอยู่กับที่  ลองเปิดสวิทแอร์ (ไม่ต้องสตาร์ทเครื่องยนต์)  กดปุ่มทำความเย็น (AC) ถ้ารีเลย์ปกติ  เราจะได้ยินเสียงรีเลย ดังแชะ และเมื่อกดปุ่มปิดสวิททำความเย็น (AC) ก็จะได้ยินเสียงอีกนั้นเอง  แสดงว่า รีเลยปกติ ตัดต่อไฟได้    แต่ถ้าทำตามนี้แล้ว ไม่ได้ยินเสียงเลย  แสดงว่า รีเลย์ทำงานตลอดเวลา  จึงมีผลทำให้ถอดกุญแจรถดับเครื่องออกไปแล้ว   รีเลย์คอมแอร์ ก็ยังคงทำงานกินไฟแบตตลอดเวลา คืนเดียว ไฟแบตก็หมดแล้ว

  6. Ultraguy

    ต้องดูพฤติกรรมการใช้รถด้วย เช่น
    -การเปิดเครื่องเสียง มีติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้ไฟเพิ่มหรือไม่
    – มีสัญญานกันขโมย ปิด/เปิด บ่อยแค่ไหน
    – การชาร์ตมือถือในรถ
    – ฯลฯ

  7. cmos8

    ขอบคุณทุกท่านมากครับ   กำลังหาซื้อไขควงวัดไฟแบตฯ อยู่พอดี  แต่ยังหาไม่ได้  
       ได้รับความรู้อย่างนี้  จะรีบไปหาหลอดไฟ 7 วัตต์  มาทำดูก่อนครับ  ได้รับความกระจ่างมากเลย
        ขอบคุณอีกครั้งครับ

Comments are closed.