ยิ่งอยู่ดูแลได้ทุกวันก็ยิ่งดี

ควรเป็นคนอื่น  จะได้คานกัน

ส่วนเรื่องไว้ใจก็อีกเรื่อง

.

เรื่องกระทบกระทั่ง หักพร้าด้วยเข่าไรเนี่ย ก็ต้องส่งคนกินเดือนเรา
ไปลุยถามทางก่อน
(ก็อย่าไปเกรงใจก็แล้วกัน เพราะมันเป็นหน้าที่ของเขา เราไม่ได้ใช้ฟรีๆ)

พอมีเงิน ไม่เดือดร้อนมาก ก็น่าทำนะครับ
ปัญหาที่เข้าตัวก็จะน้อยลงไปเยอะ

ผู้ออกแบบ ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะ ที่จะเอาใจ ผรม.
บางคนที่แนะนำกับเจ้าของ เพราะส่วนตัวเขาเห็นว่า เป็น ผรม.คุณภาพ
ที่ไว้ใจได้ และอยากสนับสนุน
… อันนี้ คือส่วนใหญ่ ที่ผมเจอ

ผู้ออกแบบ ต้องทำงานกับ ผรม.ไม่ใช่เจ้าเดียวแน่ๆ ทำไมเขาไม่เลือก
ผรม.เจ้าอื่นล่ะครับ
… ก็เพราะเขารู้ปัญหา ของ ผรม.คนนั้นไงครับ เลยไม่อยากไปยุ่ง
/เป็นการกรองชั้นแรก ชนิดหนึ่ง

และในความเป็นจริงสมัยนี้ ระหว่างการก่อสร้างจะมี"ผู้รู้" เป็นจำนวนมาก
(จากบุคคลใกล้ชิด จากการโพสต์ถามตามเวบไซต์ ฯลฯ )

การหมกเม็ดแบบว่า ไม่ใช่ง่ายเลยที่จะทำ
ดังนั้น ผรม.มีคุณภาพ ผ่านงานมามาก เขาก็เลือกจะไม่ทำกัน
เพราะเขาหวังธุรกิจต่อเนื่อง จากปากสู่ปากกันมากกว่า

… ซึ่งคนหนึ่งที่วัดก็ ผู้ออกแบบ นี่แหล่ะครับ
… ก็อีกแง่มุมหนึ่ง ที่เห็นมา

มาคุมงาน ผู้รับเหมาทำแบบนี้มันช้านะ ลองทำแบบนี้ไหมเร็วขึ้น

ผู้รับเหมาทำแบบนี้ไม่ปลอดภัยนะ เดียวมันจะพังลงมา

ดูวัสดุทีผู้รับเหมาเสนอมาราคาเท่านี้ซื้อร้านนี้ วัสดุเหมือนกันเลยแต่อีกสีหนึ่งราคาถูกกว่าเยอะ เปลี่ยนๆ

ก่อนทำกิจกรรมทุกอย่างต้องให้วิศวกรเซ็นเพื่ออนุมัติให้ผู้รับเหมาทำงานได้เพื่อทำงาน เช่นจะเทปูน วิศวกรรมต้องมาตรวจ สภาพการผูกเหล็ก ……(เวลาเกิดปัญหาจะได้ให้วิศวกรรับผิด เจ้าของบ้านรับชอบ)

ถ้าได้ตามนี้ก็จ้างเลย

แต่กลัว อาทิตย์หนึ่งจะโผ่หัวมาหนึ่งครั้ง ผู้รับเหมาเอาไม้ไผ่ฝังในคอนกรีตเเทนเหล็กเสริมเรียบร้อยแล้ว

ถ้าจ้างมาเเล้วทำให้ค่าก่อสร้างลดลง มากว่า 10% ก็โอนะ
เขียนรายงานความก้าวหน้างานก่อสร้างส่งทุกอาทิตย์ด้วย
ปัญหาอุปสรรค พร้อมวิธีการแก้ไขปัญหา และงบการก่อสร้างเทียบกับราคาตาม BOQ

เพราะคนเขียนแบบและโครงสร้าง ก็มีพลาดได้เหมือนกัน ถ้าให้คนอื่นมาดูจะเห็นข้อผิดพลาดตรงนี้และได้แก้ไขได้

แต่ถ้าใช้คนเดิม คงมีการหมกเม็ดแน่แท้ และจะรู้เห็นเป็นใจกับบริษัทรับสร้างบ้าน

สร้างเสร็จ ภาระงานที่มีปัญหาทั้งหมดจะมาตกอยู่ที่เจ้าบ้าน เรียกว่า ได้ไม่คุ้มเสียค่ะ