ที่กรุณาแนะนำมาทำให้ผมมองภาพออกแล้วครับว่าปลายสายไฟอีกเส้นหนึ่ง
ของปั๊มฯที่ผมหาอยู่ ก็คือสาย N ที่ช่างเขาพันเทปรวมไว้กับปลายสาย N อื่นๆนั่นเอง

ดังนั้นถ้าแยกสาย N เส้นนี้ออกมาจากสาย N อื่นๆที่เทปรวมกันไว้ ก็จะสามารถดึงสายไฟปั๊มฯออกจากท่อร้อยสายได้โดยง่าย เพราะช่างเขาร้อยสายไฟปั๊มไว้ในท่อ PVC สีเหลืองเป็นการเฉพาะไม่ได้ปะปนกับสายอื่นๆ

เมื่อผมเอาปั๊มฯพร้อมสายของมันออกได้แล้ว ผมก็สามารถต่อสายใหม่เพื่อใช้งานอย่างอื่นได้ ตามข้อเสนอของคุณขอนเก่า เช่นเพิ่มโคมไฟในบริเวณระเบียงหรือที่อื่นๆได้ โดยต่อสายจากสวิตซ์ปั๊มตัวเดิม ส่วนปลายสายอีกเส้นหนึ่งก็เอาไปเทปรวมไว้กับสาย N อื่นๆที่เทปรวมกันอยูแล้ว

ถ้าผมเข้าใจผิดหรือไข้วเขวไปอย่างไร กรุณาทักท้วงด้วยครับ

แนะนำ…
– ควรถ่ายภาพประกอบมาด้วย เพราะจากข้อความที่เขียน พื้นฐานทางด้านไฟฟ้าคุณน้อยมากนะครับ
– สายที่งอๆ ที่สวิทย์น่าจะเป็นสายเส้นไฟ โดยมีเมนไฟมา 1 เส้น แล้วจั๊มต่อเนื่องไปที่สวิทซ์แต่ละตัว เพื่อผ่านสวิทซ์เป็นตัว ตัด-ต่อ
– สายอีกเส้นที่จะเดินไปปั๊ม (นิวทรัล) ช่างน่าจะจั๊มรวมกันไม่ผ่านสวิทซ์ ลองสังเกตุดูมีสายพันรวมกันหลายๆเส้นอยู่ไหม

** หลังจากปลดสายแล้วอย่าลืมตัดปลายสายให้เรียบร้อย แล้วพันเก็บปลายสายด้วยนะครับ ที่สำคัญถึงปลดสายแล้ว แต่เส้นดังกล่าวก็ยังมีไฟจากการเหนี่ยวนำจากสายที่เดินในท่อเดียวกันได้
– แนะนำให้ใช้เทป 3M เบอร์ 23 พันเพราะเป็นเทปละลาย จะใช้เบอร์ 33 พันทับอีกก็ได้ … เทปทั่วไปราคาถูกๆ โดนความร้อนความชื้นไม่นานก็จะหมดสภาพ

ยังไงๆ การเดินสายไฟสำหรับปั๊มตัวนี้ก็ต้องมีการต่อสายไฟ ลองไล่จากตัวปั๊มหาจุดต่อสายไฟแล้วปลดออกดีกว่า
ปลดสายไฟที่จุดต่อสายแล้วก็เอาเทปพันสายไฟพันสายแต่ละเส้นด้วย ถ้ามันยาวเกะกะก็ยัดมันเข้าไปในท่อก็ได้

สิ่งที่ผมทำไปแล้วก่อนที่จะงง และเข้ามาถามมีดังนี้ (เรียงตามลำดับก่อนหลังตามที่ทำจริงครับ)

1. ปลดเบรคเกอร์ที่คุมไฟส่วนที่เกี่ยวข้อง (ส่วนหน้าบ้าน)

2. เปิดสวิตซ์ทั้งสามตัวที่ว่าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีไฟ และปิดสวิตซ์

3. แงะหน้ากากสวิตซ์ออก

4. ไขแผงโลหะที่ใช้ฝังสวิตซ์ออกจากกล่องโลหะที่ฝังอยู่ในผนัง ก็เห็นภาพการเดินสายตามที่เรียนให้ทราบ

5. ปลดสายไฟ (เดี่ยว) ที่ยึดไว้กับจุดต่อสายด้านบนของสวิตซ์ตัวกลาง (ตัวปิดเปิดปั๊มน้ำพุ) และปล่อยค้างไว้

6. เปิดสวิตซ์ทั้งสาม และเปิดเบรคเกอร์ตัวที่ off ไว้ ปรากฏว่าไฟเพดานติด ไฟกิ่งที่เสาระเบียงติด แต่ปั๊มน้ำพุไม่เดิน ก็แน่ใจว่าถอดถูกสายแล้ว

7. กลับไป off เบรคเกอร์ และปิดสวิตซ์ทั้งสาม

8. มองหาสายปั๊มน้ำพุสายที่สอง ซึ่งคิดเอาเองว่าน่าจะเสียบอยู่ที่จุดต่อสายด้านล่างของสวิตซ์ปั๊มน้ำพุ เพราะสายไฟปั๊มฯมันย่อมมีสองสาย สายแรกถอดไปแล้วจากจุดต่อสายด้านบนของสวิตซ์ แต่กลับไม่ใช่ เพราะจุดต่อสายด้านล่างของสวิตซ์ทุกตัวต่อเชื่อมกันไว้ด้วยสายไฟสั้นๆเอามางอเป็นรูปตัว
ยู (U) เชื่อมสวิตซ์ทั้งสามเข้าด้วยกัน ก็เลยไม่กล้าถอด U ใด U หนึ่งออก
เพราะกลัวจะไปกันใหญ่

เหตุที่ผมจำเป็นต้องถอดทั้งปั๊มและสายไฟไปด้วยกัน เพราะเป็นปั๊มน้ำพุชนิดสายไฟและตัวปั๊มจุ่มอยู่ในน้ำ ไปไหนต้องไปด้วยกันเพราะเขาทำกันน้ำไว้
จะตัดสายส่วนหนึ่งออก ก็จะเหลือส่วนที่ติดกับตัวปั๊มสั้นเกินไป เอาไปจุ่มที่ไหนไม่ได้อีกครับ

ขอเรียนเพิ่มเติมอีกนิดครับว่า สายไฟปั๊มน้ำนี้ ช่างเขาร้อยท่อสีเหลืองเล็กๆฝังไว้ในผนัง ปลายท่อด้านหนึ่งอยู่ในกล่องสวิตซ์ และเดินตรงลงมาโผล่เหนือปากบ่อน้ำพุที่ระเบียงนอกบ้าน มองไม่เห็นปลายท่อ เพราะเขาเอาปูนยาแนวอุดไว้ เห็นแต่สายไฟโผล่จากผนังเลื้อยลงน้ำไปเข้าปั๊มที่ดำน้ำอยู่ในบ่อครับ แต่ทำไมผมหาปลายสายไฟอีกเส้นหนึ่งในกล่องสวิตซ์ไม่เจอก็ไม่ทราบ อาจเป็นเพราะดึงแผงสวิตซ์ออกมาดูให้ถนัดไม่ได้  เพราะสายมันสั้นมาก

จะพอบอกพิกัดของปลายสายเส้นที่สองนี้ได้ไหมครับ

มีข้อเสนอ  แทนที่จขกท.จะถอดปั๊มน้ำออกแล้วถอดสาย  ทำไมไม่เปลี่ยนจากปั๊มน้ำ เป็นหลอดไฟแทน  อาจจะดึงสาย/เดินสายลากไปยังจุดที่ต้องการ  ก็จะมีไฟส่องสว่างใช้อีกดวง  

การที่จะแนะนำให้ถอดสาย  ถ้าทราบว่า  สายไฟที่ใช้เป็นสายเดี่ยว หรือสายคู่  ก็จะง่ายขึ้น  การอธิบายด้วยตัวหนังสือให้เห็นภาพไม่ง่าย  ถ้าไม่มีประสบการณ์บ้างอาจจะเกิดอันตรายได้  อย่างน้อยก็ทำให้เบรคเกอร์ตัดไฟ ทำให้ไม่สามารถใช้ไฟได้  

รอท่านอื่นด้วยครับ

สายไฟที่พันรวมกันเป็นกลุ่มเป็นสาย Neutral สายไฟที่ต่อคร่อมถึงกันที่จุดต่อสายด้านล่างคือสายไฟมาป้อนสวิทช์

ถ้าต้องการเลิกใช้สวิทช์ตัวที่สอง ก็ดึงสายเส้นที่สองออก
โดยใช้ไขควงเล็กๆ กดเข้าไปในร่องยาวๆ ใกล้จุดที่สายไฟเสียบเข้าไป แล้วดึงสายออกมา