เท่าที่นึกออกนะคะ

เอาเป็นว่าตอนนี้ลองเข้าไปคุยดูก่อนว่าทางเทศบาลเค้าต้องการอะไร

เท่าที่อ่านน่าจะเพิ่งเปิดกิจการเดือนพฤศจิกายน ปี2553 โดยปกติก็น่าจะยื่นเสียภาษีโรงเรือน ประมาณเดือน ก.พ. 2554 จะคำนวณเป็นรายได้ 2 เดือน ซึ่งไม่น่าจะต้องไปเสียภาษี ณ วันนี้

ควรนำเอกสารที่แสดงว่าคุณเพิ่งเปิดกิจการในเดือนไหน เช่น ใบเสร็จค่าน้ำ และ ค่าไฟฟ้า (จะเห็นความแตกต่างว่ามีคนเริ่มใช้มากเดือนไหน)
ทางเทศบาลจะมาคิดมั่วๆไม่ได้

ตอนนี้กำลังรอแม่อยุ่เหมือนกันว่าจะดำเนินไปได้มากน้อยขนาดไหนค่ะ
เดินทางไปหาเทศบาลเพื่อขอเอกสารและดำเนินการตามระบบ  โดยไปขอความเมตตาค่าห้อง ต่อ ภาษีที่จะเสียไปค่ะ

รอ
รอ
รอแม่โทรมาหา…กุ้มใจแทนแม่จังที่ช่วยอะไรไม่ได้เลยเป็นห่วงอะไม่น่าเลยอะ

แต่ถ้าคุณเพิ่งเปิดทำการให้เช่าไม่ถึงปีจริง  เพิ่งเปิดมาสองสามเดือน(ข้อความเยอะ สาวกุมภ์หาไม่เจอว่าเปิดให้เช่าเดือนไหนคะ)  ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องดำเนินคดีคะ

เอาเอกสารไปยื่นว่าเพิ่งเปิดให้เช่า  ถ้าเขาจะคิดภาษีก็ให้คิดเฉพาะที่ผ่านมา ตั้งแต่สิงหาคม(ที่เปิดให้เช่า)ถึงพฤศจิกายน

ส่วนเดือนธันวาคม ถึงก.พ. 2554 นั้นคิดภาษีไม่ได้  เพราะเป็นเวลาในอนาคต  ยังไม่มีการเช่า

แล้วการคิดภาษี  ก็ตรวจทานดูด้วยนะคะ  ว่าต้องมีส่วนลด "ห้องว่างที่ไม่มีคนเช่า"

หรือคุณจะเสียตามจริง  ก็ยื่นเอกสารห้องว่างไม่มีคนเช่าไป  ซึ่งตรงนี้แล้วแต่เจ้าหน้าที่ว่าจะเข้ามาตรวจสอบถึงที่อาคารหรือจะดูเพียงเอกสาร

ปล.  ต้องไปเสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ด้วยคะ

ทีนี้จะอุทธรณ์คุณก็ต้องมีหลักฐานไปแสดงให้เขาดู เช่น
– ห้องพักระดับเดียวกัน เขาเก็บค่าเช่าเท่าไหร่ เสียภาษีเท่าไหร่
– ต้นทุนของคุณมีอะไรบ้าง การคำนวณค่าเช่าห้อง ค่าเฟอร์นิเจอร์ของคุณมาจากไหน ยกเมฆแบ่งเอาลอยๆ  หรือมีวิธีคำนวณมาอย่างสมเหตุสมผล

หลักฐาน + เหตุผลดีมีน้ำหนักก็มีสิทธิ์ชนะ

กรณีนี้  ทางเทศบาลเข้ามาหาที่หอพัก  แล้วแจ้งทางเราว่า ได้ทำการถ่ายรูปไปรีบร้อยแล้วให้มาแจ้งขึ้นทะเบียนเสียภาษี ถ้าไม่กระทำการจะดำเนินคดีโน้น นี่ นั้น   โดยระบุ ราคาห้องพักเสียภาษี ตามที่ได้บอกไป

ซึ่งทางเค้าก็ให้จ่ายค่าภาษี กุมภาพันธ นี้ สองเดือน ของห้องพัก 12.5%  
เอาเป็นว่าจะต้องไปรายงานหรือเปล่าหรือไม่ต้องไปค่ะ

ปล. การที่รายงานไปว่าขอไปดำเนินเรื่องด้วยตัวเอง เดือนธันวาคม นั้นรอให้โรงเรียนปิดเทอม  ซึ่งมันไม่ใช่ข้ออ้างค่ะ แต่มันเป็นหน้าที่ที่จะต้องเป็นไปตามนั้นตามที่ขอซึ่งแม่ไม่มีการศึกษา  อ่านหนังสือก็ไม่ได้  การที่กระทำการได ก็อยากให้เป็นไปตามความถูกต้องและความเหมาะสมค่ะ และความเห็นใจ  

แต่ก็เข้าใจว่าไม่มีใครมาสนใจ  

เรื่องศึกษาการบ้านนั้น ยอมรับค่ะว่าไม่ได้ศึกษาอะไรมากมาย  แต่กรณี้ที่ร่างกฏระเบียบหอพักไปนั้นได้แจ้งตามที่ผู้ลงทุนต้องการแล้ว และได้คำนวณ ต้นทุน กำไร ขาดทุน อย่างที่ได้บอกไปแล้วอะค่ะ

แต่กรณีที่ทางการจะเห็นใจหรือไม่นั้นก็  ไม่ได้คาดการเอาไว้ก่อนนี้ค่ะว่าจะราคาผิดพลาดจากที่ได้กำหนดไปแล้วอะค่ะ

ในกรณี  ให้เปิดบริการหนึ่งปีก่อนนั้นหนูจะกลับไปถามทางการอีทีหนึ่งค่ะ ว่าจะทำได้หรือเปล่า  เป็นการเสียภาษีย้อนหลังอะค่ะ

แล้วนอกจากภาษีโรงเรือนแล้ว  จะต้องมีภาษีอะไรตามมาอีกหรือเปล่าค่ะ เสียอะไรอีกหรือเปลาค่ะ