เหมือนๆกับการคำนวณดอกเบี้ยเงินฝากที่เค้าคิดดอกให้คุณเป็นรายวัน

คร่าวๆ นะคะ ..จากตัวอย่างที่คุณยกมา จะเห็นได้ว่าวันที่มันไม่เคยตรงกันเลย
เดือนก่อนโน้น คุณจ่ายวันที่ 25 , เดือนต่อมา คุณไปจ่ายวันที่ 27 ก็จะเท่ากับ 32 วัน
เงินต้นจะถูกตัดน้อยลง กลายเป็นดอกเบี้ยมากขึ้น
( ต้องดูกับตารางผ่อน ว่าปกติค่างวดเท่านี้ เป็นต้นเท่าไหร่ ดอกเบี้ยเท่าไหร่ค่ะ )
พอเดือนนี้จ่ายวันที่ 2 ก็ต้องไปนับการจ่ายครั้งก่อน คือวันที่ 27 นับให้ถึงวันที่ 2 รวมเป็น 35 วัน
..เงินเท่าเดิมที่จ่ายไป ก็จะไปตัดเงินต้นน้อยลงไปอีก กลายเป็นดอกเบี้ยซะเยอะค่ะ

ถ้าจะพิสูจน์ทฤษฎี ต้องลองดูค่ะว่าถ้าจ่ายวันเดียวกันทุกเดือน ยอดตัดต้น และดอกเบี้ยจะดูเป็นยังไง

และถ้าจะให้หมดไวขึ้น ต้องเพิ่มจำนวนเงินที่จ่ายค่ะ ไม่ใช่เลื่อนวันที่จ่าย
เช่น วันที่ 2 คุณไปจ่ายแล้วตามยอดค่างวด แต่วันที่ 16 ถูกล๊อตเตอรี่ เอาเงินไปเข้าวันที่ 17 อีก 10,000
10,000 ที่ถูกหวยมานี้ก็จะไปตัดต้นอย่างเดียว
เหมือนที่ คห.1 บอกว่าหากจ่ายเงินเพิ่มมาอีกก้อนหนึ่ง ในกรอบเวลาเดียวกัน ก็จะไปตัดต้นอย่างเดียวน่ะค่ะ