ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ สำหรับกองทุนหมู่บ้านเค้ามีไว้สำหรับช่วยเหลือเคสแบบนี้โดยเเฉพาะค่ะ

ไม่คิดดอกเบี้ยแล้วแต่เราจะให้ค่าบำรุงเค้าเป็นรายเดือนไป แต่คิดว่าคงไม่กู้เต็มจำนวนค่ะ

พี่ชายเราจะรับผิดชอบตรงส่วนนี้ไป คือเราปรึกษากันแล้วด้วยภาระอย่างทุกวันนี้จะเก็บเงินแสนคงต้องใช้เวลานานมาก คงนานเกินไปจริงๆนะคะ

ส่วนเรื่องผู้รับเหมาเป็นลุงของเราเองคะ ^^

ยังไงก็ขอบคุณน้อมรับทุกคำแนะนำคะ

By: มี้สก๊อต
Since: 2 ต.ค. 55 14:57:53

เท่าที่เข้าใจกองทุนหมู่บ้านอาจจะเรียกเก็บดอกเบี้ยก่อน แล้วค่อยคืนเงินต้นเป็นรายปี หรือแล้วแต่นโยบายที่กรรมการกำหนด

จะทำให้เกิดปัญหาขาดสภาพคล่องได้ และการกู้สินเชื่อปลูกบ้านก็ต้องใช้ที่ดินไปจำนอง

หากบริหารจัดการไม่ดี อาจมีผลกระทบได้

คำแนะนำคือ
1. ปิดหนี้ทั้งหมด
2. เก็บเงินให้ได้ 15-20% หาแบบบ้าน
3. ปรึกษาธนาคาร หาผู้รับเหมาที่น่าเชื่อถือ
4. ควบคุมการก่อสร้าง ให้ตรงตามสัญญาจนบ้านเสร็จสมบูรณ์

By: Raining Man
Since: 2 ต.ค. 55 13:01:01

ปิดตามนี้ครับ เพราะยอดเงินไม่เยอะ จากเงินที่มีปิดได้หลายบัญชีกว่า

By: 2475
Since: 2 ต.ค. 55 12:22:29

-แบบบ้านมีแล้วราคาประเมินน่าจะราวๆ 7-8แสนได้

-เคยคุยกับเพื่อนที่เพิ่งกู้ผ่านไป เค้าบอกก็ต้องขึ้นโครงเองก่อน ส่วนนี้ก็เตรียมการไว้แล้วค่ะที่หมู่บ้านมีกองทุนให้กู้ยืมตรงส่วนนี้อยู่หลังคาละ 2แสน คาดว่าน่าจะครอบคลุมรายจ่ายทั้งในส่วนของผู้รับเหมาและอื่นๆค่ะ

ขอบคุณทุกท่านมากนะคะที่เข้ามาแนะนำ จากที่จขกท.ไม่มีค่อยมีความรู้เรื่องนี้เท่าไรคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคารก็พูดแบบเป็นทางการเกินไป ไม่ค่ิอยเข้าใจ ^^ Thank

**ท่านใดมีอะไรแนะนำเพิ่มเติมยินดีนะคะ**

By: มี้สก๊อต
Since: 2 ต.ค. 55 11:58:20

สร้างบ้านแบบนี้แบงค์ไม่ได้ให้ทั้งก้อนนะคะ จะทยอยจ่ายให้เป็นงวดๆ ค่ะ

By: AntiSpam (อันตราคนี)
Since: 2 ต.ค. 55 11:49:35

– เราควรจะปิดบัตรไหนก่อนบ้างค่ะถ้ามีเงินจำกัดแค่นี้
ควรตรวจสอบว่ามีสินเชื่อไหนที่เป็นแบบ Flat Rate คือ มีการคำนวณดอกเบี้ยรวมอยู่ในงวดผ่อน หนี้ก้อนนี้หากปิดไปดอกเบี้ยก็จะไม่ได้ลดลง ต่างกับสินเชื่อแบบ Effective Rate ที่เป็นแบบลดต้นลดดอก หากยิ่งปล่อยไว้นานดอกเบี้ยก็จะเพิ่มขึ้น
ดังนั้น ควรปิดสินเชื่อที่คิดดอกเบี้ยแบบ Effective Rate โดยเรียงจากดอกเบี้ยที่สูงลงมาก่อน แต่ Flat Rate ก็ควรชำระตามงวดปกติ

หากเงินไม่เพียงพอสำหรับปิดสินเชื่อแบบ Effective Rate เนื่องจากดอกเบี้ยสูง ประมาณ 20-28% ต่อปี
ควรรวมยอดหนี้ทั้งหมดไปรีไฟแนนท์ยังธนาคารที่มีดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต่ำกว่า
ตอนนี้เห็นของ TMB ให้รีไฟแนนท์ได้ คิดดอกเบี้ย 10% ในปีแรก (ควรอ่านเงื่อนไขโดยละเอียด)
ก็จะช่วยให้ จขกท. สามารถลดดอกเบี้ย และชำระหนี้หมดได้ไว โดยต้องมีวินัยทางการเงินเป็นอย่างดี

ก่อนจะซื้อบ้านควรออมเงินไว้อย่างน้อย 15-20%

By: Raining Man
Since: 2 ต.ค. 55 11:33:26

ปิดบัตรที่คิดดอกเบี้ยสูงสุด / พวกที่ไม่ลดต้นลดดอกก่อนครับ (ถ้าเป็นเมื่อก่อน ดอกเบี้ยบัตรเครดิต แพงสุด)

– หากเราปิดบัตรได้แค่บางส่วนไม่ใช่ทั้งหมด โอกาสกู้ผ่านมีมากน้อยแค่ไหนค่ะ หรือว่าไม่มีผลเลย เราต้องปิดทั้งหมด T^T

ไม่ต้องห่วงครับ ธนาคาร จะคำนวนว่า คุณควรจะกู้ได้เท่าไหร่ แล้วปัจจุบัน มีหนี้แล้วเท่าไหร่ วงเงินที่จะให้กู้ คือ ยอดสุทธิของวงเงินที่จะกู้ได้ หักลบด้วยยอดหนี้ที่มีแล้วครับ

ถ้าจำไม่ผิด ยอดที่ควรจะกู้ได้ เขาจะประมาณจากความสามารถในการผ่อนชำระต่อเดือน คือ ประมาณ 40% ของรายได้ประจำในแต่ละเดือนครับ

– เคยจ่ายอิออนกับเฟิร์สช้อยช้าไป1งวด คือกำหนดจ่ายวันที่2 แต่เราไปจ่าย25 แบบนี้ประวัติเราจะเสียมันจะไปแสดงที่เครดิตบูโรไหมคะ

คิดว่าไม่มีปัญหาครับ เขาจะดูรวมๆ ถ้าช้าไปบ้าง แค่เดือนเดียว ที่เหลือสถานะไม่มีปัญหาตลอด ก็ให้กู้ได้ ผมเอง ลืมจ่ายบัตรเครดิตบ่อยๆ (นึกขึ้นได้ ก็จ่ายเต็มตลอด) ยังกู้ซื้อบ้านผ่านเลยครับ

By: lonely_nomad (Lonely Nomad)
Since: 2 ต.ค. 55 10:51:25

1. บ้านที่จะปลูกใช้เงินแค่ไหนคะ มีแบบในใจหรือยัง

2. คุณจะกู้แค่ไหน

เงินเดือนหมื่นห้ากว่าๆ กู้ประมาณ 8 แสนถึงหนึ่งล้าน

3. ถ้ามีที่ดินของตัวเอง และจะกู้เพื่อสร้างบ้านในที่ดินนี้ คุณควรต้องไปคุยกับแบงค์ให้ดี เอาเป็นว่า ทรัพย์จดจำนองมันจะต้องเป็นทั้งบ้านที่กำลังจะสร้างและที่ดินด้วย ถ้ากู้มาสร้างบ้านอย่างเดียว โอกาสกู้คงยาก

อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ต้องคุยกับธนาคารให้ละเอียด

เพราะฉะนั้น คุณควรเริ่มต้นคิดแบบบ้านที่อยากได้ก่อน ถ้าจะให้ปลอดภัย บ้านที่ว่าไม่ควรเกิน 6 แสนหรือ 6.5 แสน (ยอดผ่อนต่อเดือนน่าจะอยู่ราวๆ 5 พันกว่าบาท) หรือน้อยกว่านี้ เงินหกหมื่นที่มี เอาไปปิดเท่าที่ปิดได้ ความสมดุลของรายได้และยอดหนี้ของคุณจะดีขึ้น โอกาสกู้ผ่านมีสูง (ถ้ากู้ไม่เยอะอย่างที่บอก)

แต่ถ้าคราวนี้กู้ไม่ผ่าน ก็ทำใจร่มๆ ค่ะ พยายามปิดหนี้ให้มากที่สุด และอย่าก่อหนี้เพิ่ม ไปกู้ใหม่ตอนต้นปีหน้า สถานะทางการเงินของคุณน่าจะดูดีกว่าตอนนี้ โอกาสที่แบงค์ให้ผ่านก็น่าจะมีสูง

สิ่งที่ควรทำในตอนนี้ก็คือเอาเงินที่มีไปปิดบัตรให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้นะคะ

By: AntiSpam (อันตราคนี)
Since: 2 ต.ค. 55 10:35:38

คำตอบของคุณพอทำให้เราหายเครียดไปบ้าง ^^

By: จขกท (มี้สก๊อต)
Since: 2 ต.ค. 55 10:30:11

โอกาสในการกู้คือ รายได้สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนแล้วเหลือเท่าไหร่นั่นเอง

ส่งช้าไปงวด มันก็ไปแสดงในเครดิตบูโรเท่านั้นล่ะครับ มีผลบ้าง อย่าเครียด ใคร ๆ ก็ส่งช้าได้ คนรวย ๆ เขาติดหนี้ ดึงหนี้กันเป็นปี ๆ ไม่เห็นจะเป็นไร ทำงานหาเงินให้ได้มาก ๆ เข้าไว้เป็นพอครับ

By: suttigan
Since: 2 ต.ค. 55 10:24:23