ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม ก่อนอื่นต้องรุ้จักประเมินตัวเองก่อนว่า เรามีความรุ้ขนาดไหน ทำเองไหวไม่ไหว มีงบประมาณเพียงพอที่จะทำหรือไม่
ถ้ายังไม่พร้อมเรื่องงบหรือเรื่องใดๆ ก็อย่าเพิ่งทำ รอไว้พร้อมก่อนค่อยทำ ง่ายๆแค่นั้นเอง

แต่หลายท่าน เมื่ออยากได้ของ หรืองานบริการใดๆ แล้วงบประมาณไม่ถึง ก็มักแก้ปัญหาโดยหันไปหาของถูกๆแทน
โดยไม่ทันคิดว่าของถูกจะใช้วัสดุคุณภาพอย่างไร หรือทำงานได้ตามมาตรฐาน และมีปัญหาตามมาหรือไม่
จนกลายเป็นเสียน้อยเสียยากไป

เห็นได้จากเรื่องบ่อปลาหรือสระว่ายน้ำ บางท่าน อยากได้ แต่ไม่กล้าจ้างมืออาชีพเพราะเขาคิดแพง เลยไปจ้างช่างที่ถูกกว่า แต่ช่างพวกนั้นขาด know how ไป
สุดท้ายใช้งานไม่ดี หรือมีปัญหาต้องคอยแก้ ต้องทุบทำใหม่ เสียน้อยเสียยาก แล้วมานั่งช้ำใจภายหลัง
ทั้งที่ถ้าเรายังไม่พร้อมก็อย่าเพิ่งทำ ก็แค่นั้นครับ

แต่อย่างคุณ webkit เอง ประมาณตนเองแล้วรุ้ว่าตัวเองทำไม่ไหว และงบยังไม่ถึงที่จะลงทุนดีๆ ก็รอจนกว่าจะมีงบเพียงพอ แล้วทำดีๆทีเดียวจบ

นั่นคือการคิดที่รอบครอบและตัดสินใจถูกต้องแล้วล่ะครับ ^^

ผมบอกทุกท่านเสมอ คนเราควรประหยัด แต่ไม่ควรงก (งกต่างกับประหยัดตรง คือไม่ยอมเสียในสิ่งที่ควรเสีย แต่ประหยัดคือ การยอมเสียในสิ่งที่ควรเสียครับ)

วันนี้ผมลองมาถางหญ้าดู ได้จึกๆๆ เหนื่อยแล้ว ฮาๆ
สงสัยก็คงหนีไม่พ้นต้องจ้างนั่นแหละครับ

แต่คงยังไม่ทำช่วงนี้ เก็บเงินก่อนดีกว่า
ถ้าจะทำคงต้องทำให้ดีๆ แบบที่คุณ Lotto บอก
จ่ายครั้งเดียว ให้สวย ทน ไปเลย

ถ้าเคยมีโอกาสไปเดินในสนามกอลฟ์ หรือสนามหญ้าสวยๆอ่ะ
ขั้นตอนมันเยอะกว่านี้มากครับ ปูหญ้าแล้วเดินเนียนๆ กับปูหญ้าง่ายๆ มันก็ผิดกัน

ผมแนะนำขั้นตอนให้ดีกว่าครับ
1.รื้อถอนวัชพืชออก เก็บเศษขยะออก
2.ต้องฆ้าวัชพิชทิ้งด้วยยา กันมันขึ้นซ้ำ
3 ปรับผิวทรายหนาอย่างน้อย 5 ซม ถ้าคนเป็นมืออาชีพเขาจะปรับสโลบให้ระบายน้ำไม่่ให้น้ำขัง ได้ด้วย
4.บดอัดทรายด้วยเครื่อง พร้อมรดน้ำ ให้ทรายแน่นได้ระดับ (ไม่ใช่เสียบ หรือลูกกลิ้งตบนะครับ)
5.โรยดินผสม พร้อมปูหญ้า พร้อมใช้ลูกกลิ้งกลิ้งหญ้าให้เรียบและรากติดกับผิวทราย

แล้วเวลาคิดต้นทุน-กำไร
ถ้าคิดง่ายๆแบบคนทั่วๆไปคิด ก็คงคิดแบบนั้นแหละครับ แต่ความจริงมันไม่ใช่เลย
เพราะมันมีต้นทุนที่มองไม่เห็น อย่างค่าหญ้าๆตรมล่ะ 15 บาท ลืมค่าจิปาถะรายจ่ายต่างๆของร้าน ค่าขนส่ง ค่ารถ และค่าสึกหลอของรถด้วย แล้วหญ้า มันไม่รอดหมด 100% หรอกครับ มันต้องมีตายบ้าง ต้องคิดเผื่อเปลี่ยนด้วย
แล้วเวลารื้อเคลียรที่ ถ้าไปเจอเศษหิน เศษวัสดุ ก็ต้องเคลียรทิ้งให้ด้วย

แต่คนงานหรือร้านทั่วไปมักจะไม่คิดถึงพวกนี้ไงครับ พอเจอปัญหาทำแล้วคิดว่าไม่คุ้ม หรือขาดทุน
เขาก็ทิ้งงานสะ ตรรกะเดียวกันกับ ช่างเหมาก่อสร้างแหละครับ

บางที่คิดตรมล่ะ 100 ก็จริง แต่ถ้าเขารวมขั้นตอนแบบนี้ให้ และดูแล รับประกันหญ้าตาย ก็ไม่ได้ถือว่าแพงหรอก

ส่วนใหญ่เรามักจะไปดูที่ตัวเงินอย่างเดียว แต่มองข้ามขัั้นตอนและมาตรฐานดีๆไป เพราะเราขาด know how และคิดไปเองว่ามันต้องอย่างโน้นอย่างนี้ ไงครับ

ของทุกๆอย่างในโลกมันก็มีหลายคุณภาพครับ บ้านยังมีตั้งแต่บ้านสังกะสีจนถึงบ้านหรูๆ รถยนต์เองก็เช่นกัน
ผมถึงบอกไงครับว่า ทำถูกๆอ่ะ แต่งานออกมาไม่ดี ก็ไม่เรียกว่าถูกหรอก
ในทางกลับกันทำแพง แต่งงานออกมาดี มันก็ไม่เรียกว่าแพงเช่นกัน
เราควรดูของที่ตามราคา

อย่างที่บอก ถ้าเขา ไม่กำจัดวัชพืชให้คุณดีๆ ไม่นานวัชพิขพวกนี้ก็ขึ้นมาใหม่ เพราะพวกนี้มันแข็งแรงกว่าหญ้า แล้วหญ้าคุณก็จะค่อยๆหายไป
ถ้าปรับสโลปที่ให้คุณไม่ดี น้ำขัง สุดท้ายหญ้าคุณก็เน่าแล้วตาย
ถ้้าเขาเอาหญ้าใกล้เน่ามาปูให้ สุดท้ายหญ้าคุณก็ตายเช่นกัน

หมื่นกว่าบาทที่หลายๆท่่านว่าถูก หรืออาจแพงสำหรับคุณ อย่างว่าแต่หมื่นกว่าเลย ต่อให้ 5พัน สุดท้ายก็ไม่มีความหมาย ถ้ามันทำออกมาแล้วสวยชัวคราว
สุดท้ายก็ต้องมาเสียเงินทำใหม่

แต่สมมุติท่านที่จ่ายครมล่ะ 100 (ประมาณ 26000บาท) แต่ทำออกมาตามขั้นตอน แล้วใช้งานได้ไม่มีปัญหาอย่างด้านบน

ถามว่า คิดว่าอย่างไหนถูกหรือแพงกว่ากันล่ะครับ ?

แค่ปูหญ้าเหมือนง่ายๆ แต่จริงๆถ้าจะทำให้ดี มันก็มีขั้นตอนของมันที่ไม่ง่ายมากหรอกครับ

ที่บอกมาขั้นต้นไม่จำเป็นต้องเชื่อหรืออะไรผมก็ได้นะครับ แต่ขอเป็นมุมมองนึงเพื่อเป็นข้อมูล ให้ลองคิดดูเล่นๆครับ

บ้านผมก็รก แถมหน้าดินเป็นเศษปูนเศษแก้ว ฝาเบียร์  อยากจะขุดไปทิ้งแล้วเอาดินงามๆมาลง

ผมไม่เคยปลูกหญ้ามาก่อน ก็ไม่ค่อยรู้ขั้นตอนมากนักหรอกครับ
ผมจะลองไล่ค่าใช้จ่ายตามที่คุณ Lotto แนะนำนะครับ

ต้นทุนหญ้า 15 บาท  เขาคิดรวมค่าปลูก 35 บาท
ค่าทรายคงไม่เกิน 5 บาท/ตรม (ผมดาว่าโรยหนา 1 cm)
ดังนั้นต้นทุนค่าของ อยู่ที่  20 บาท
ก็คือ ค่าแรง+กำไร 15 บาท ใช่มั้ยครับ
ค่าถางวัชพืช+ขนไปทิ้งไม่มีของ ก็เน้นที่ค่าแรง  20 บาท

หักต้นทุน ก็จะมี กำไร+ค่าแรง  35 บาท / ตรม
ก็ประมาณ 9,000 บาท

หักค่าแรงคนงานออกยังไงร้านก็มีกำไรครับ
ผมว่าคงไม่เข้าเนื้อหรอก

ร้านก็ต้องมีกำไรถึงจะอยู่ได้  
แต่กำไรมากก็ไม่มีคนซื้อ  
สภาพเงินฝืดแบบนี้  ราคานี้ผมยังรู้สึกว่าแพงครับ

ถ้าเจอราคา 100 บาท / ตรม  แบบของคุณ a pinky pig  
ผมคงอ้าปากค้างไปแล้ว

เอาไว้ถ้าผมปูหญ้าเสร็จแล้วจะเอามา Review ให้ชมนะครับ
ว่าราคาเท่านี้ คุณภาพจะเป็นยังไง

ตอนนี้ผมจะวางแผนใหม่ โดยจะลดพื้นที่ปลูกหญ้าลง
ให้เหลือซัก 200 ตรม

เอาแค่รื้อวัชพืชออกน่ะ มันต้อง ถากดินผิวปรับพื้นที่ ใส่ยาฆ่าวัชพิช(ลองไม่ใส่ดูสิครับ หญ้าที่คุณปูใหม่น่ะ อยู่ได้ไม่นานนหรอก) เอาขยะไปทิ้ง ตรม.ล้ะ20บาท
ก็ไม่น่าจะพอแล้วล่ะครับ แต่คิดว่าเขาไม่ทำแบบนั้นให้แน่ๆ

อย่างหญ้าอีก ถ้าปูแล้วไม่รับประกัน ก็ไปเหมาหญ้าเน่าๆค้างๆ มา ปูไป ไม่นานก็ตาย เราจะทราบไหมอ่ะครับ

ทำถูกๆอ่ะทำได้ แต่ทำแล้วไม่ได้ดีอ่ะ ไม่น่าเรียกว่าของถูกนะครับ

ส่วนทำเองได้ ไหม
มันเป็นอาชีพอ่ะครับ ถ้าเราทำกันทุกอย่างเอง ได้หมดก็ไม่ต้องมีอาชีพอะไรๆกันแล้วอ่ะครับ

อยู่ที่ว่าเราไปทำน่ะคุ้มไม่คุ้ม มันเป็น know how ด้วย เอาแค่คนอาชีพเดียวกัน ยังมี know how ไม่เท่ากันเลย

บางท่านยอมจ่ายเงิน แล้วเอาเวลาไปพักผ่อนดีกว่า แต่ถ้าคิดว่าเราไหวมีกำลังก็ลองทำดูได้ครับ

แต่ไม่ว่างเลยหาคนมาทำ ตร.เมตรละ 100 ทั้งหมด 300 ตร.เมตร

จ่ายไปทั้งหมด 35,000 แน่ะ

โทษตัวเองที่ซื่อบื้อ ไม่หาข้อมูลหลายเจ้า หุหุหุ

จากราคานี้ผมก็ต้องวางแผนก่อน
ถึงจะถูกแต่ก็ต้องทำตามกำลังเงินแหละครับ

เพราะยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ

ได้เป็นนักวิเคราะห์ นักวางแผน นักออกแบบ
ก็ตอนที่ทำบ้านนี่แหละครับ