คือ ผมอายุก็ใกล้จะ 30 แล้วนะครับ  
อยากทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันขึ้นมาบ้าง   รถตอนนี้ก็ผ่อนมาเหลือ 2 ปี  

ก็เลยอยากมีที่อยู่เป็นของตัวเองครับ เพราะปัจจุบันเสียค่าเช่าเดือนนึงก็ 5000 บาท

ถ้ากู้ได้เต็ม ผ่อน 30 ปี ก็ตกราวๆ เดือนละ 9000 บาท ค่าส่วนกลางอีก 1000 บาท

จ่ายเพิ่มอีก  5000 ต่อเดือน ถามว่ามันตึงๆมั้ย ก็ยอมรับครับ ว่าเยอะ  ก็จะพยายามให้ผ่าน 2 ปี ไปก่อน ผ่อนรถหมดเมื่อไหร่ค่อยมาโป๊ะ คอนโดไปเรื่อยๆครับ  อีกสองปี คอนโดทำเลเดียวกัน ราคาก็คงขึ้นไปอีกเรื่อยๆ  (มูลค่ารถปัจจุบันก็น่าจะราวๆ 500,000 บาท ถ้าขายแล้วเอามาโป๊ะเงินค่ารถที่เหลือค้าง ก็จะมีเงินสดราวๆ 300,000 บาท)

อย่างที่บอกไปตอนนี้มีเงินเก็บอยู่ 200,000 กว่าบาท

ทองรูปพรรณ ก็ทยอยๆซื้อเก็บไว้เดือนละ สลึง สองสลึง จนตอนนี้มีเก็บไว้ประมาณ 20 บาทครับ  ที่ไม่ซื้อทองแท่ง เพราะมูลค่ามันสูง เก็บตังไม่ได้สักที เลยยอมเสียค่ากำเหน็จ (ซื้อตั้งแต่สมัยราคาบาทละ หมื่น)

แล้วอีกสี่ปีข้างหน้า กรรมธรรที่ผมส่งไป ก็จะครบกำหนดแล้ว ก็จะได้เงินก้อน พร้อมปันผล มาราวๆ 200,000 บาท ทำไว้กับ AIA ครับ  แบบ 10 ปี

ผมไม่อยาก เอาทองมาขาย ไม่อยากเอาเงินเก็บมาใช้ รถที่ผ่อนอยู่ก็ไม่อยากขาย ไว้พาแม่ พ่อ ไปไหนมาไหนด้วยกัน

แล้วถ้าเกิดเหตุฉุกเฉิน ตกงาน หรือ ไม่มีงานทำขึ้นมา ก็สามารถอยู่แบบไม่สุรุ่ยสุร่าย ได้สัก สองปี  

ผมจึงอยากขอความเห็นครับ ว่า วิธีไหน น่าจะดีที่สุด  เพื่อที่จะได้จ่ายเงินตัวเองน้อยที่สุดครับ ยอมเสียดอกไปก่อนสามปี  แล้วค่อยรีไฟแนนท์ใหม่แล้วโป๊ะไปสักก้อนครับ  

อีกสัก 5 ปีข้างหน้า น่าจะดีขึ้น เงินเดือนปีนึงขึ้นราวๆ 2000 บาท เงินเดือนเกิน สามหมื่น โบนัสก็มากขึ้นตามฐานเงินเดือน (บริษัทที่ทำอยู่ มั่นคง เศรษฐกิจไม่ส่งผลกระทบ)

แล้วก็จะได้ มีครอบครัว  สักที  

ปล. ส่วน พ่อกับแม่  พี่น้องผม 5 คนก็ ช่วยๆกัน ทำกรรมธรรไว้ให้  เจ็บไข้ได้ป่วย ก็สามารถใช้จากส่วนนี้ได้ครับ

แล้วไอ้หมื่นกว่าบาทอย่างเราคงไม่ต้องมีบ้านกันชาตินี้

ถ้าพี่กู้ผ่านแล้วคิดว่าสามารถผ่อนได้ โดยไม่เดือดร้อน ก็เอาเลย

จะซื้อจากโคงการหรือต่อจากคนอื่น ก็ขึ้นอยู่กับว่าอันไหนเงื่อนไขดีกว่ากัน

ห้องถูกใจเรามั้ย เลือกห้องชั้นที่ถูกใจ จะซื้อจากใครก็เลือกเอาตามสบายใจ

ในชีวิตคนเรา ย่อยมีติดขัดบ้าง ไม่ราบรื่นตลอด
หากไม่ได้ผ่อนสัก 3-4 งวด มีปัญหาขึ้นมา เงินช๊อด, ตกงาน มิแย่หรือครับ
 หากถูกยึดขายทอดตลาด ยิ่งไปกันใหญ่ เป็นหนี้หัวบานเลยน่ะนั่น

ผมว่าคุณยังไม่มั่นคงทางการงิน อย่าพึ่งเป็นหนี้สินเลยครับ จะลำบากเปล่าๆ

1. เซ็นสัญญาซื้อขายก่อน  จ่ายค่าเงินประกันไปสัก 5 พัน หรือ หมื่นนึงก่อน
2. เราหนังสือสัญญาไปยื่นกู้
3. รู้ผลกู้แล้ว  แบ่งสดเงินเป็น 2  ส่วน   , ส่วนแรกจ่ายคนขายดาวน์  ส่วนที่2  จ่ายให้โครงการ

เรื่องวงเงินกู้
วงเงินที่ยังผ่อนได้แบบ best case (410,000/12 *0.4 ) – 8,600  = 5000 นิดๆ  แนะนำให้กู้ร่วมดีกว่าครับ เพราะค่าผ่อน ยังไงก็เกิน  5000 แน่ๆ
.

ปล. การเขียนเช็ค  ตอนยื่นกู้สามารถให้แบงค์ทำให้หลายใบให้ได้  ถ้ากู้ได้เกินราคาประเมิณ  ก็จะสามารถเอาเงินมาให้คนขายดาวน์ได้ครับ  สู้ๆครับ

ปล2.  ลองถามโครงการเรื่องค่้าเปลี่ยนชื่อด้วยครับ ว่าต้องเสียเท่าไหร่