อย่าทำเป็นอันขาด

By: อือ
Since: 26 ก.ค. 55 12:42:22

เครียดน้อยๆตอนนี้ ถ้าพลาดขึ้นมาแทบประสาทเสียนะ เห็นมาเยอะ

ที่กินที่ใช้ทุกวันแบบไม่ระวัง มันรายจ่ายทั้งนั้น

By: อือ
Since: 26 ก.ค. 55 12:45:12

ถ้าจะเอาเงินกู้มาลงในหุ้น เอาไปสร้างบ้านเช่าดีกว่าอย่างน้อย เกิดอะไรขึ้น ถึงจะเป็นหนี้ ก็ยังมีทรัพย์สินเป็นบ้าน เหลือ

By: panmai
Since: 24 ก.ค. 55 19:22:38

เงิน 7-8 แสน  ทำอะไรกำไรต่อเดือน ได้มากกว่าค่าเช่าห้องอีกครับ

7-8 แสนลงทุนทำอย่างอื่นที่ดีกว่าห้องเช่าเยอะยะไปครับ

คนเป็นเจ้าห้องจะเหนื่อยใจตรงที่ ห้องเราจะโคตรโทรมเลย

ผมแนะนำให้ไปปล่อยเงินกู้กะคนที่รู้จักหรือคนในหมู่บ้านดีกว่า

ดอกเท่าไรก็ว่าไป อันนี้ผมว่ากำไรดีกว่ากันเยอะ ใครจะกู้ ก็ต้องหาหลักฐานมาคำประกัน เช่น รถ ที่ดิน อะไรก็ว่าไป ประมาณนี้ครับ

By: Honza_Like a ku
Since: 24 ก.ค. 55 21:01:32

เอาไปซื้อที่ดิน มันไม่ก่อให้เกิดรายได้  ไม่ทราบว่าจะกู้มาทำไมให้เป็นภาระตัวเอง (ขอโทษด้วย  อาจจะแรงไปนิด)

ถ้าคุณยังไม่ชัวร์ว่าจะทำอะไรดี   เราคิดว่าเอาเงินไปคืนเถอะค่ะ เสียค่าปรับนิดหน่อย ดีกว่า เสียดอกเบี้ยเยอะๆ แล้วยังไม่รู้ว่าจะเดินไปทางไหนดี

อีกอย่างนึง   การลงทุนทุกอย่างมีปัญหาค่ะ เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้  ต้องรู้วิธีรับมือกับ ปัญหา  ทุกอย่างอยู่ที่ใจว่าจะสู้  รึ  ไม่สู้   แต่เราถ้าใจสู้  เราก็จะสามารถค้นหาวิธีรับมือกับปัญหาทุกอย่างได้

ที่สำคัญเราต้องหนักแน่น

By: อาเจเจ้
Since: 26 ก.ค. 55 10:08:00

ปรึกษากับแฟนแล้ว คิดว่าจะเอาเงินไปลงทุนอย่างอื่นดีกว่า แฟนบอกให้ไปลงทุนซื้อดินในโคราชดีกว่า หรือให้กู้เงินแบบเอาที่ดินมาขายฝากก็ได้

By: แม่น้องมะปราง
Since: 25 ก.ค. 55 08:11:54

By: panmai
Since: 24 ก.ค. 55 16:17:14

เมื่อกู้มาแล้วก็คงจะไม่เอาไปคืน ถ้าไม่ทำบ้านเช่า ก็คงต้องแบ่งมาให้แฟนเล่นหุ้นแทน

เพื่อนเราแนะนำอีกทาง คือเอาเงินไปปล่อยกู้แบบมีหลักประกัน เช่นขายฝาก เพื่อนเราทำได้เงินดีมาก แต่ที่บ้านเราไม่ค่อยชอบเรื่องแบบนี้เลย เพราะเป็นคนขี้สงสาร จะให้คิดดอกแพง ถึงกำหนดไม่มีเงินแล้วยึดที่ ก็คงทำไม่ลงอ่ะ

ที่อยากสร้างบ้านหรือทำบ้านเช่า ส่วนหนึ่งก็เพราะกลัวเรื่องน้ำท่วมด้วย คิดว่ายังไงกรุงเทพฯในวันข้างหน้าคงไม่พ้นโดนน้ำท่วมอีกแน่ เราก็ตั้งใจว่ายังไงๆก็จะขอกลับไปอยู่โคราชดีกว่า แม้ว่าจะมีบ้านแม่อยู่แล้ว แต่เราก็อยากมีบ้านเป็นของเราเองด้วยค่ะ

By: แม่น้องมะปราง
Since: 24 ก.ค. 55 17:02:05

ลองเปรียบเทียบดูเล่นๆ ในระยะเวลาที่ลงทุน 10 ปี จากเงินทุนเท่ากัน

ลงทุนทำห้องเช่า 800,000 ได้ 4ห้อง x2000ต่อเดือน =ได้ เดือนละ 8000 หักภาษี หักค่าใช้จ่าย อื่นๆ (ค่าคนดูแล )ค่าซ่อมแซม ค่าภาษีโรงเรือน(กรณีลูกค้าเอาบ้านไปเปิดร้านต้องจ่าย ควรระบุในสัญญาว่าใครเป็นคนจ่าย)  คิดว่าเหลือเฉลี่ยเดือนละ   5000   กว่าจะสร้างเสร็จ คิดง่ายๆ ใช้เวลา 1 ปี  ดังนั้นเท่ากับ เก็บค่าเช่า 9 ปี ได้ เงิน 540,000

เอาเงินที่มี 800,000 ไปลงทุนในกองทุน เฉลี่ยได้ผลตอบแทน 8 %  ลงทุนได้เลยไม่ต้องรอเวลา ได้ ผลตอบแทนปีละ 64,000  (เสียภาษี 15 % แต่คนที่มีฐานภาษี 0% หรือไ่ม่รายได้อย่างอื่น {อาจใช้ชื่อแม่ลงทุน}….. ขอคืนภาษีได้)  10 ปี ได้เงิน 640,000  (ถ้าเสียภาษี ก็เหลือ 544,000 )

การลงทุนทั้งสองอย่างมีตัวแปรอื่นๆเช่นห้องเช่า อาจได้ราคามากกว่าหรือน้อยกว่านี้ ค่าใช้จ่า่ยอาจเพิ่มหรือลดไปกว่านี้ ห้องเช่าอาจว่าง ไม่มีคนเช่าเต็มตลอด  แต่ข้อดีคือ เหลือบ้านเป็นทรัพย์สิน เมื่อระยะเวลาผ่านไปหลายๆปี ถ้าได้ค่าเช่าคืนทุน  แต่ต้องแลกกับ การต้องปวดหัว กับปัญหาจุกจิก และเหนือยกายเหนื่อยใจ ยิ่งบ้านเช่าราคาถูก คนเช่าส่วนใหญ่จะปัญหามาก คงต้องคอยแก้ปัญหาต่างๆตลอดเวลา  เรามีบ้านเช่า ราคาหลักหมื่น แรกๆ อะไรเสีย หรือมีปัญหาอะไร คนเช่าโทรตามตลอด เซ็งมาก ปัญหาง่ายๆ ก็ไม่ยอมแก้ไขเอง แถม ขอเลื่อนค่าเช่าตลอด ขนาดเราทำสัญญาเก็บล่วงหน้าทั้งปี  ยอมให้ตีเช็คครึ่งหนึ่ง เงินสดครึ่งหนึ่ง  พอถึงเวลา ก็มาขอเลื่อนตลอดดดด
ผลตอบแทนจากการลงทุน ปันผลที่ได้ อาจมากหรือน้อยกว่านี้ แต่โดยเฉลี่ย ที่ลงทุนผ่านมา หลายปีเฉลี่ย 8 % (และได้รับ capital growth เพิ่ม) หุ้นพวกนี้บางครั้งอาจมี มีขึ้นหรือลง แต่ส่วนใหญ่จะนิ่งไม่ค่อยขึ้นหรือลง

**** การลงทุน ทุกอย่าง มีความเสี่ยง ควรศึกษาก่อนการลงทุน และตัดสินใจด้วยตัวเอง   เพราะเกิดอะไรขึ้นคือเงินของเรา กว่าจะเก็บได้มันยากเย็น *****

ป,ล  เงินกู้ถ้านำออกมาแล้วยังไม่ใช้ลงทุนหรือสร้างบ้าน ควรเอาไปคืนหรือลงทุน ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าอัตราเงินกู้ที่ต้องจ่าย   เพราะทุกวันที่ผ่านไป ดอกเบี้ย มันหยุดไม่นิ่ง

By: panmai
Since: 24 ก.ค. 55 16:01:01

อาทิตย์หน้าหยุดหลายวัน ว่าจะกลับบ้านที่โคราช และคงต้องไปสำรวจดูบ้านเช่าที่เขาทำกันดูก่อน ว่าเป็นแบบไหนบ้าง คิดค่าเช่าัยังไง และกลุ่มผู้เช่าเป็นยังไงบ้าง

By: แม่น้องมะปราง
Since: 24 ก.ค. 55 15:43:04