ผมมีเหตุผล

บ้านที่ ณ วันนี้ น้ำไม่ท่วมเพราะอยู่สูงหรือถมพื้นสูงกว่า หรือ อื่นใดก็ตาม  

เมื่อผ่านไป 5 ปี 10 ปี  บริเวณที่เคยน้ำท่วม อาจจะถูกขายไปทำหมู่บ้าน หรือมีการบูรณะบ้านใหม่ ถมพื้นใหม่จนสูง  

บ้านที่ ณ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว น้ำไม่ท่วม แต่ดินก็ทรุดลงไปทุกปีอยู่แล้ว เมื่อมีน้ำหลากมา คราวนี้ที่ ๆ เมื่อ 5 ปีที่แล้วไม่ท่วม  ก็ท่วมได้  แต่ที่ ๆ เพิ่งถมใหม่ สร้างบ้านใหม่ น้ำก็ไม่ท่วม  เพราะน้ำมันจะไหลไปที่ต่ำกว่าก่อน  มันก็จะวนเวียนเป็นวัฎจักรอย่างนี้แหละ …

เมื่อก่อนบ้านผมกรุงเทพฯ ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยานี่แหละ ก็เป็น ชุมชนท่วมซ้ำซาก …  แต่เมื่อ 10 ปีที่แล้วามีการทำยกพื้นถนน ขุดลอกท่อใหม่ ทำคันกั้นน้ำ ก็ไม่ท่วมอีกเลย …  แต่ในอนาคตข้างหน้าก็ไม่แน่ เมื่อพื้นที่อื่น ๆ มีการยกพื้นถนน ถมที่สูงขึ้น … น้ำก็คงจะไหลมาท่วมบ้านผมเหมือนเดิม

ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ  เลี่ยงได้ยากครับ ..   สร้างบ้านมีใต้ถุนเหมือนคนสมัยก่อนซะดีมั้ยเนี่ยตรู   55

แต่จะว่าไป  จะว่าน้ำไม่ท่วมก็ไม่ใช่ครับ แต่เป็นเพราะว่า ตอนฝนตกเยอะ ๆ เสร็จใหม่ ๆ น้ำก็มีท่วมขังเป็นจุด ๆ  แต่เนื่องจากเค้ามีเครื่องดูดน้ำที่มีประสิทธิภาพ  ทำให้ดูดน้ำออกได้เร็ว  เลยไม่เจอปัญหาน้ำท่วม  เพราะระบบการจัดการของเค้าดี  

ดีตามการเก็บเงิน ค่าส่วนกลาง  เพราะเค้าเก็บกัน หลังล่ะ ไม่ต่ำกว่า 1,000  บาท ขึ้นไป ตามขนาดของเนื้อที่บ้าน

ส่วนบ้านทาวเฮ้าส์  เชื่อได้ว่า  กว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ในกทม มั้งครับ  ส่วนมากน้ำจะท่วม  หมู่บ้านผม ขนาดมีเครื่องดูดน้ำ  มีคณะกรรมการหมู่บ้านดูแล ก็ไม่รู้ว่า ดูดกันยังไง  น้ำก็ท่วมอยุ่ดี……

ไม่เห็นจะดูด เร็ว ลดเร็ว เหมือน หมู่บ้านเดี่ยวข้าง ๆ เลย

และเท่าที่สังเกตุ  หมู่บ้านเดี่ยว หลาย ๆ แห่ง แถวบ้าน  ก็ไม่เห็นน้ำจะท่วมหมู่บ้านเค้าเลยครับ   เคยได้ยิน หลาย ๆ คน ตัดสินใจ ขายบ้านทาวเฮ้าส์ หนีน้ำท่วมไปซื้อบ้านเดี่ยว

ดังนั้น  ถ้ามีกำลังทรัพย์พอ……เล็งบ้านเดี่ยวเถอะครับ  น่าจะดีกว่าทาวเฮ้าส์  หมดปัญหาเพื่อนบ้านด้วยในระดับหนึ่ง

แต่วันนี้ฟังวิทยุ เขาบอกว่าเขตพระราชฐาน จะพยายามไม่ให้ท่วม

ดังนั้น ลองดูเขตทวีวัฒนา ดีไหมครับ
หรือจะเอาเขตดุสิต ก็ได้ แต่คงแพงมากๆ