…. ถ้าคุณชอบความท้าทายลุยครับ
ตอนผมกู้นะแต่ผมคิดทางหนีทีไล่ไว้หมดแล้ว แผน A, B,C เงินเก็บไม่ค่อยมีหรอกแต่
– ผมมีที่สวนยางซื้อไว้ ขายทิ้งก็ได้หลายแสน
– ผมผ่อนทาวเฮาส์ ไกล้หมดเหลือไม่กี่แสน ราคาประเมินไม่ต่ำกว่าล้านกว่า

ซื้อบ้านเดี่ยว ไม่มีตังค์เก็บมีแต่เงินเดือน แต่มีข้างบนเป็นแผนสำรองเป็นทางหนีทีไล่ถ้าเกิดอะไรขึ้นไครไม่มีเงินเก็บจะซื้อก็ไม่แปลกแต่เสี่ยงหน่อยถ้าไม่มีอะไรที่พอจะแปลงเป็นทรัพย์สิน เวลาตกงานหรือเหตุการไม่คาดฝัน

– ดาวน์สิบเปอร์เซ้น(อันนี้ก็ทุ่นไปเกือบล้าน)
– ต่อรองราคา
– ถ้าตกงานเรามีอะไรรองรับ อย่างผม ถ้าตกงานกะไม่ไหว คือ
1. ให้เช่า ถ้าคิดจะเอาไว้นะ ทุ่นรายจ่ายไปส่วนหนึ่ง
2. ขาย
3. ขายทาวน์เฮาส์มาต่ออายุส่งบ้านเดี่ยว ที่ลงทุนค้าขายให้ส่งบ้านเดี่ยวได้
เริ่มต้นผ่อนคุณต้องวางแผนเก็บเงินซักก้อนแล้วเกิดมีไรเกิดขึ้นคุณจะได้มีบัฟเฟอร์หรือมีตังค์ไปทำอย่างอื่น

ท้ายสุดแล้วคุณเท่านั้นที่จะประเมิณศักยภาพตัวเองได้ คำเห็นคนเห็นเป็นแค่แนวทาง

เมื่อกู้แล้ว ก็จะมีเงินที่ต้องจ่ายเป็นประจำเป็นการ(เกือบ) ถาวร  แต่รายได้
ไม่แน่ว่าจะได้เท่านี้ตลอดซะเมื่อไหร่

จริง ๆ อยากกู้แค่ 3 ล้านค่ะ
แต่พอดีแบงค์นี้คำนวณให้ เลยตกใจว่าได้ขนาดนั้นเลยหรอ
ส่วนเรื่องผ่อน จะผ่อนร่วมกับแฟนค่ะ
อาจจะต้องรัดเข็มขัดซักหน่อยในช่วงแรก ๆ
และไม่คิดจะผ่อนถึง 30 ปีค่ะ คงจะโป๊ะเรื่อย ๆ ค่ะ

แต่ที่ไม่กู้ร่วมเพราะว่า…แฟนวงเงินกู้ซื้อบ้านเต็มแล้วค่ะ
เพราะเค้ากู้ซื้อบ้านมือสองมาทำบ้านเช่าอยู่หลายหลัง
รายได้รวมกันก้อประมาณ 7 หมื่นกว่าค่ะ
น่าจะพอไหว…

ขอบคุณทุกท่านมาก ๆ เลยนะคะ

เหลือ 5 พัน กินใช้จ่าย ไหวหรอครับ

หลักอีกก็ได้ ถ้าเกิด Hyper Inflation ในอนาคตจริงๆ มี guru หลายท่าน

ทำนายไว้แล้ว ดูจากราคายาง น้ำมัน ตลาดหุ้น ก็พอเห็นภาพบ้างค่ะ

เราก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ระวังไว้ก่อนไม่เสียหายค่ะ

30 %ของรายได้ไม่รวมโบนัส คือตัวเลขที่เหมาะสมค่ะ